ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคที่ 1-287
ลำ 2. เมื่อกิฐมีโอฐขึ้นเกิน นั้นงบนแอกขับไป เป็นฤดูล้าจัง
ในเมื่อโคทั้ง 2 ยกเท้าขึ้น และเมื่อโอกาสเพียงปลายเส้นผมล่วงเลยไป
จากประเทศก็คือทั้ง 2 ดุนผืนน เป็นปราชญ์ แต่ก็โต้ทั้ง 2 รู้ว่า
"ผู้มี๋ใจเจ้าของของเรา" แล้วสลัดแอกทิ้ง ไม่อยอมขับไป หยุดอยู่
ก็ตาม คิ่นรน (พยศ) อยู่ก็ตาม ยังรักษาอยู่ก่อน เมื่อกิฐจุดโคทั้ง 2
ให้หยั่นเคียงกันตรงๆ แล้วพาดแอกเทียมใหมัน แต่งด้วยจะกุขับไป
อีก เป็นฤดูล้าจัง ในเมื่อโคล่าลันขึ้นยกเท่านั้น ตามนี้ก็กล่าวแล้ว
นั่นแล เป็นปราชญ์ ในเมื่ออ็อลเคลื่อนที่ไป ถ้ามันทางที่โคลนคร
ล้อข้างหนึ่งติดแล้วในโคลน โคหมุนล้อข้างที่ 2 วนเวีรอยู่ อวดหา
ยังไม่มีผู้น เพราะล้อข้างหนึ่งยังคงตั้งอยู่ แต่เมื่อกิฐจุดโคทั้ง 2
ให้หยั่นเคียงกันตรงๆ อีกแล้วขับไป เมื่อ ล้อข้างที่ตั้งยังในโอากาสที่ถูก
ไป เพียงปลายเส้นผม เป็นปราชญ์ และพิทารบาความต่างกันแห่ง
ฐานของฐานที่เทียบ โดยอุบายนี้ คือ ยานที่เทียบ 4 มิถุน 18 ที่เทียบ
8 มิถุน 14 ส่วนยานในที่มีได้เทียบ เขาใช้ม้าคีรดรรกหนึ่ง
และค้างหลัง 2 อัน จอดไว้ ยานนั้น มิถุน 5 ด้วยอำนาจแห่งไม้ค้าง
3 อัน และล้อทั้ง 2 ถ้าไม่ใช่ที่ตรงแอก เขามาถเป็นง่ามที่ต่อด้าน มี
ฐาน 6 ส่วนยานที่ไม่ได้ไว้ข้างหลัง คำที่แกลเช่เท่านี้ มีฐาน 8 บ้าง
5 บ้าง คำอ้างจากแห่งไม้ค้าง สำหรับนายเขา ตั้งไว้บนแผ่นกระดาน
หรือก่อนไม้งาน มีกฐาน 3 ยานที่ตั้งไว้แผ่นดิน ก็เหมือนกัน
เมื่อกิฐลาครรยอายุยานนั้น ให้เคลื่อนฐานไปข้างหน้าและข้างหลัง
เป็นฤดูล่าจัง เมื่อลูฐานลื้อทั้ง 2 จอดอยู่ไป เพียงปลายเส้นผม
ก็นเป็นปราชญ์ สำหรับนายที่เขาถอดล้อออกแล้วเอหัวเพลาก็ทั้ง 2 พาด