ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคฯ - ปฐมสัมมนาปลาสำเกาะแปล ภาค ๒ - หน้าที่ 272
จีวรนั้นนั้นเอง ครั้งเมื่อจีวรนั้น สักว่าล่วงเลยฐานแห่งชายข้างขวาทาง
ชายข้างซ้ายไป หรือสักว่าล่วงเลยฐานแห่งชายทางข้างขวาไป
เป็นปราชิก ด้วยการรูดไปเพียง ๑๐ นิ้ว หรือ ๑๒ นิ้วเท่านั้น เมื่อ
ภิญฑุกขึ้นข้างบน เป็นปราชิก ด้วยการกั้นเพียงปลายเส้นผม เมื่อ
ภิญฑุกแก้จิวที่เขาเชือกผูกแขนไว้ จะถูกราดจีวรหรือไม่ถูกก็ตาม
เป็นลูกลังจิ๋ย, เมื่อแก้ออกแล้ว เป็นปราชิก. จริงอยู่ จิวร์นั้น
พอสว่าก็ออกเท่านั้น ยอมถึงออกนั่นว่า "พ้นจากฐาน" เมื่อ
ภิญฑุกลายจีวรที่เขาพันไว้ก็ราดออก เป็นลูกลังจิ๋ย, ครั้นเมื่อจีวรนั้น
สักว่าลาดออกเสร็จแล้ว ก็ต้องปราศิก. เมื่อจีวรที่ทำเป็นห่วงเก็บ
ไว้ภิญฑุด์ห่วงออกก็ดี ก็ออกก็ดี ปลดปลายราวด้านหนึ่งแล้วรูดออก
ก็ดี ต้องลูกลังจิ๋ย, ครั้นเมื่อห่วงนั้น สักว่าดาดดี สักว่ากาดดี สักว่ากาดดี สักว่าดอออกแล้วก็ดี ต้องปราศิก. ภิญฑุไม่ได้ทำอยนั่นเลย
รุดไปรูดมาบนราวจีวร, ยังรักษาอยู่ก่อน. จริงอยู่ ราวจีวรแม่ทั้งหมด
เป็นฐานของห่วง, เพราะเหตุไร ? เพราะความที่แห่งจีวรมีรดเลื่อน
ไปบนราวจีวรนั้นเป็นธรรมดา. แต่ถ้ากิญแจอมือจีวรนั้น ทำให้ไป
ในอากาศ ต้องปราศิก. เพียงโอกาสที่ถูกบีบโอกาสที่อยู่ เป็นฐาน
ของจีวรที่เขาสะพาดไว้ วันฉันในจีวรชนิดนั้น พิงทราบตามนี้ที่
กล่าวไว้แล้วในจีวรที่พาบไว้ ส่วนจีวรใด เป็นของลูกพื้นที่ด้วยชาย
ข้างหนึ่ง, ฉานจีวรนั้นมี ๒ ฐาน ด้วยอำนาจโอกาสที่ตั้งอยู่ดูราวจีวร
และที่พื้น. บรรจุจีวรที่ตั้งอยู่บนราวจีวรและที่นั้น ในจีวรทอดพื้น
ด้วยชายข้างหนึ่ง พิงทราบวันฉันตามที่กล่าวแล้วในผาสนุกไม่แข็ง
นั่นแหละ. แม้ในสายระเดื่องจีวร ก็พิพทนาร์จีวรดังนี้แหละ. ส่วน