ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (ต่อ) ปฐมสมันปลาสีภาค ๒ - หน้าที่ 273
....................................................
ภาคาที่วาวงแถวในนอง จะเป็นหม้อหรือกุ้งกุ้งตาม, ถ้าตั้งอยู่ไม่ถูกฝา หรือพ่น, เมื่อกุ้งเชือกสำหรับกล้องปลดออก, เมื่อภายนอกนั่น สักว่าถอกปลาหยดไว้, เป็นปราชญ์. เชือกสำหรับกล้อง เป็นของแถง, เมื่อกุ้งอยู่ในทางกันหม้อ ทำให้ลอยไปออกนาก ถึงเมื่อเชือกที่กล้องนั่น ยังไม่หลุดออกจากปลาหยด ก็เป็นปราชญ์.
ภาคหย เป็นของติดอยู่กับฝา, เมื่อกุ้งภาคหย่นออกจากปลาหยดครั้งแรก ต้องดูปลหัวจ๋าย, ปลดให้พ้นที่หลัง ต้องปราชญ์, นัยแม่นแห่ง ภูมิผู้ปลดให้พ้นก่อนแล้ว ภายหลังจึงออกจากหยด ก็เหมือนกัน.
ถ้าถิกิฤญู ไม่อาจปลดภาภัยนกได้ ตนเองจึงทำให้พังผาแล้วปลดออกจากหยด, เมื่อภายนอกนั่น แมกุ้งไม่ให้พ้นฝา สักว่าปลดออกจาก ข้อท่านัน เป็นปราชญ์, เพราะว่าสถานที่นานั่น ไม่ต้องเป็นฐาน แต สำหรับภาคหยที่ฉุกพ้นมร ๒ ฐานเท่านั้น. วิจัยฉัยในภาคหยที่ฉุกพื้นนั่น ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วแล้ว. ก็แต่ ภาคหยใส่สาเหตุ แบ่งไว้, เมื่อกุ้งนำภาคหย่านออกจากสาเหตุ ก็ปลดภาคหยั่น
ทั้งสามเหรฒออกจากขดี เป็นปราชญ์, และถึงความต่างกันแห่งฐานะ ในภาคหย่าใส่สาเหตุแถวๆ ก็ผิดหวังอย่างกลัดจะดีติดฝนและพื้น.
หลักดอกที่ฝ่า ตรง ๆ หรือเคือเกิดที่ฝ่านั่นเอง ชื่อว่า ภิกติซิล.
ส่วน นาฏกุปต (หลักมีสัญญาณเหมือนงาช้าง เรียกว่าบ้านใดแก้วนั้น)
งด า ขาดอกไว้ที่ฝาเหมือนกัน. ภาคหย่านแถวๆ ที่มาขาแถวไว้ที่หมูกุ้งฝา และ บันใดแก้วัน พิทาราบันจิฉต่อมาขยาดนี้กล่าวแล้ว ในภาคหยที่แถว
………………………………………..
๑. ภิกติซิล หมูหรือเคือบ้างฝา. นาฏกุณฺโ บราณว่า บ้านใดแก้ว (แขมรว่า ใดแก้ว เป็นที่ แบวหมวกเป็นต้น).