ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (๒) - ปฐมสัมพันธกาปลากาแปล ภาค ๒ - หน้า ที่ 300
หนึ่ง เป็นปราชญ์เพราะหลักอีกหนึ่ง ด้วยประการฉะนี้. คี
ปราชญ์นั้นและ ย่อมมีเพราะความ ทอดุทธระของพวกเจ้าของ. ในการรุก
ล้ำด้วยเชือเป็นต้น มีมิ่งอย่างนี้.
ว่ารัฐ วา มีความว่า ภิกษุมีความประสงค์จะให้ผู้อื่น
รู้ว่า "นานี้เป็นของเรา" จึงเชือกก็ถอดาม ทอดไม้วลงตาม ต้อง
ทุกกุญ เมื่อเธอทำในใจว่า "บัดนี้เราจักทำให้เป็นของของตนด้วย
๒ ประโยค" บรรดาสองประโยคนัน เป็นลูกลักษณ์เพราะประโยคที่,
เป็นปราชญ์เพราะประโยคที่ ๒.
ว่ารัฐ ว่า มีความว่า ธิกษุมีความประสงค์จะทำานของผู้อื่นให้เป็นของของตน ด้วยอำนาจแห่งการล้อม จึงปกหลังระหว่าง
ต้องทุกกุญ ๆ ประโยค เมื่อประโยคหนึ่งยังไม่สำเร็จ เป็นลูกลักษณ์.
เมื่อประโยคนันสำเร็จแล้ว เป็นปราชญ์ ถ้าเธอไม่อาทำด้วยประโยค
มีประมาณเท่านั้น แต่ถาดาให้เป็นของของตนได้ ด้วยล้อมไว้ด้วย
ถึงไม่นั้น แมในการทอดกังไมลง ก็มีนั่นเหมือนกัน. ภิกษุณาอา
เพื่อจะล้อมด้วยขัดถองไดอย่างหนึ่ง ทำให้เป็นของตนได้ ด้วย
ประกอบอย่างนี้, ในวัดฏู้น ๆ พีงทราบว่าระดับทุกกุญเพราะประโยค
ต้น ๆ เป็นลูกลักษณ์เพราะประโยคอันหนึ่ง บรรดาสองประโยคในที่สุด,
เป็นปราชญ์เพราะประโยคออกจากนี้.
ว่ารัฐ มฤทธิ์ ว่า มีความว่า ภิกษุมีความประสงค์จะให้เขูรู้
นานของผู้อื่นว่า "นี่เป็นนาของเรา" จึงทำเขตแดนของคนให้รู้กล้เข้า
ไป โดยให้ค้นนาเลยนาเลยนาของผู้อื่น หรือเอกินร่วมและดินเหนียวเป็นต้น
๑. ภิกษาแก้ ยุวจี ว่า มานฤกษ์