ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๓ - ปฐมสนิทปลาสิกามาแปล ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๔๓
[ปราชญ์ศัพท์เป็นไปในศิลนากับเป็นต้น]
บทว่า ปราชญ์ ก็แปลว่า พ่ายแพ้แล้ว คือถึงแล้ว ซึ่งความ
พ่ายแพ้ จริงอยู่ ปราชญ์ ศัพท์นี้ ย่อมเป็นไปในศิลนากบ อนิต
และบุคคล ใน ๓ อย่างนั้น ปราชญ์ ศัพท์ ที่นี่ ไปในศิลนากบ
พิ้งทราบ (ในที่มา) อย่างนี้ว่า "คู่ต่ออานนท์! มิโชฌาณ มิโชฌา
โอกาส ที่ตถากคะพิงถอนไปปราชญ์ศิลนากบ ที่ได้บุญถิ่นแล้ว เพื่อ
สถาวทั้งหลาย เพราะเหตุแห่งพากิฬาวัชรัษ หรือพวกวิชาชุนตร
เลย."
ที่เป็นไปอนันต์ พิ้งทราบ (ในที่มา) อย่างนี้ว่า "กิณฺย! เธอ
ต้องอาบัติปราชญ์แล้ว." ที่เป็นไปในบุคคล พิ้งทราบ (ในที่มา)
อย่างนี้ว่า "พวกเรามีเป็นปราชญ์, ผู้ใกล้, ผู้มั่น เป็นปราชญ์."
แต่ผู้วายบางพวกกล่าวว่า "ปราชญ์ศิลนากบี่ ยังเป็นไปในธรรมได้อีก
เช่นในที่มามีว่า (ภิกฺขุ) ตามกำจัด (ภิกฺขุ) ด้วยธรรมมีโทษถึง
ปราชญ์ ดังนี้เป็นต้น."
แต่เพราะเหตุที่ในอนันต์และศิลนากบทั้ง ๒ นั้น ในที่บางแห่ง
พระผู้พะกาทรงพระประสงค์คือด้วย "ธรรม" บางแห่งก็ทรง
พระประสงค์ศิลนากบ ที่เดียว เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรกล่าวธรรมนันวน
ไว้อีกแปนหนึ่ง.
บรรดาศิลนากบ อนิตและบุคคลนั้น, ศิลนากบ พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่า "ปราชญ์" เพราะเหตุที่ยังบุคคลผู้นี้มีให้พ่าย, สงอาบัติ
ตรัสว่า "ปราชญ์" เพราะเหตุที่ยังบุคคลผู้ต้องให้พ่าย, บุคคลตรัสว่า