ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคที่ ๒ ปฐมมัญญา ปทุม มีกว่านี้เห็นราชบูรณ์ ทั้งหลาย ส่งใจไปในผืนนี้ ยืนอยู่ในนั้นเทียว ขว้างกันตะไป เพื่อ ต้องการให้ไปขนอถ ถ้าถ่านทะนั่น เป็นของจะต้องกองไปได้แน่ พอหยุดจากมือ เธอต้องปราศรัย ถ่านถ่านทะนั่น กระทบต้นไม้ หรือ ดอกไม้ หรือถูกกำลังลมแรงหอบขึ้น ตกไปในเขานั้นแน่ ยัง รักษาอยู่ เธอหยิบขว้างไปอีก ต้องปราศรัย ตามที่กล่าวแล้วใน หนหลังนั่นแน่ ถ้าถ่านทะนั่นตกที่พื้นดิน แล้วลิ้มเข้ามาขนในอีก เธอต้องปราศรัยเหมือนกัน ส่วนในกรณี และส่งเปลาะกก กล่าวว่ากว่า "ถ่านถ่านทะนั่นตกไปข้างนอก หยุดแล้วจึงลิ้มเข้าไป เธอ ต้องปราศรัย ถ้ายังไม่ทันหยุดเลยลิ้มเข้าไป ยังรักษาอยู่" ภูฏุยืน อยู่ภายใน ให้มือ หรือเท้า หรือไม่เท่าเขี่ยลิ้มเข้าไป หรือว่าให้ผู้อื่นลิ้ม เข้าไป ถ้าถ่านทะนั่นไม่หยุด กลิ่นออกไปต้องปราศรัย กินตะนั้นหยุด อยู่ข้างในแล้ว จิ้ง (กลิ้ง) ออกไปข้างนอก ยังคงอยู่เหมือนกัน แต่ในกรณที่ถูกกรูงาไว้จะต้องปรีฑูรย์ กลิ่นออกไปอย่างนั้น ไม่มีคำที่จะพึงกล่าวเลย ภูฏุทำหอสองหอให้เนื่อง เป็นอันเดียวกัน วางไว้ระหว่างแนดของด่านภาษี แม้ว่าภาษีในหอ นอกจะได้รับราคามากหนึ่ง ก็จริง ถึงกระนั้นหอในยังรักษาไว้ได้ เพราะ เนื่องเป็นอันเดียวกันกับหอนอันนั้น แต่ถ้าอย่าย่ำที่จะอยู่ภายในไป