ความหมายของการบอกลาในสิกขา ปฐมสมันตปาสาทิกา ภาค 2 หน้า 133
หน้าที่ 133 / 404

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการบอกลาในสิกขาที่ไม่ถือว่าเป็นการบอกลาสำหรับภิกษุในสำนักของเทวดาและมนุษย์ รวมถึงการเข้าใจในการบอกลาที่ไม่เหมือนกันในแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบอกลาที่เกิดขึ้นในสำนักของคนที่มีปัญญาและความเข้าใจ ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในการตัดสินใจและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการบอกลาในชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของการบอกลา
-การบอกลาในสำนักของเทวดา
-การบอกลาในสำนักของมนุษย์
-ผลกระทบของการบอกลา
-การเข้าใจในการบอกลา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ปฐมสมันตาปะทาแปล ภาค 2 - หน้าที่ 133 เมียดยื่นนับเพื่ออุทิศ แม้บอกลาแล้ว ก็ย่อมไม่เป็นอันบอกลา. สิกขาแม้บอกลาแล้วในสำนักของภิกษุผู้งชานครงั้นนั้น เมื่อภิกษุผูกวาณจะแน่น นั่นเข้า ก็ไม่มีอันบอกลา. สองบาท เทวดา สนุติกา ความว่า สิกขา ที่กูบอกลาแล้วในสำนักของเทวดาเริ่มแต่มาเทวดาไปจนถึงอนุฎฐา ย่อมไม่เป็นอันบอกลา. บทว่า ติรจฉานคตสู ความว่า สิกขา ที่กูบอกลาแล้วในสำนักของามานพ343 สุบรรณามานพดี หรือในสำนักของเทวดาเหล่านิกนร ช่างและลิงเป็นต้นพวกใดพวกหนึ่งดีก็ ย่อมไม่เป็นอันบอกลาเลย. สิกขา ที่กูบอกลาในสำนักของบรรดิกูบิ้งบ้านั้น ย่อมไม่เป็นอันบอกลาเท่า เพราะ (ภิกษุบบ้านั้นนั้น) ไม่เข้าใจ. ที่บอกลาในสำนักของเทวดา ก็ย่อมไม่เป็นอันบอกลา (เหมือนกัน) เพราะ (เทวดา) รู้เรื่องเร็วเกินไป. ชื่อวาเทวดาว่าที่มีปฏิสนธิเป็นใดเหตุ มีปัญญา มาก ย่อมรู่จะรีริเกินไป ก็ขึ้นชื่อว่านี่ ย่อมเป็นธรรมชาติเป็นไปรวดเร็ว; เพราะเหตุนี้ น พระผู้พระอากเจจิงรงหมายพระองค์ว่า "ความพิณของบุคคล (ภิกษุ) ผู้มีจิตกลับกลอกอย่ามีรีรอไปนาน เพราะอำนาจจิตนันเลย" จึงทรงห้ามการลิขาขาในสำนักของเทวดาไว้, ส่วนในหมู่มนุษย์ ไม่นิยมหน่วยไว้, สิกขา ที่กูบอกลาในสำนักของคนใดคนหนึ่ง ผู้เป็นอปกากัน (คือบุรษ) ก็ดตามผู้เป็นวิสากกัน (คือมุรซ) ก็ดตาม เป็นคฤหัสถ์ก็ตาม เป็นบรรพชิตก็ตาม ซึ่งเข้าใจ (ผู้มีจีงลสา) ย่อมเป็นอันบอกลาแล้วเท่. ถ้าว่าคนนัน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More