ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปฐมสมันปฏิทินภาค ๒ - หน้า 98
ย่อมเสวยสมบัติในหมู่ทวยเทพและในหมู่มนุษย์.
ส่วนปฏิโมกสงครามศรี ท่านเรียกว่า "อธิฤ" จริงอยู่ ปภิฤ-
โมภสงครามนั้น เป็นศิลที่ยิ่งและสูงสุดกว่าทรวงโกศิลศัลทั้งหมด ดู
พระอฏิฤยิ่งกว่าแสงสว่างทั้งหลาย ดูภูญาณสิเนอรสุขกว่าอรรถทั้งหลาย
ฉะนั้น ย่อมเป็นไปได้เฉพาะในพุทธรูปปกากาลเท่านั้น นอกพุทธรูปปก-
กาหนี้เป็นไปไม่. ด้วยว่าทุก otherไม่สามารถถอดบูชาถึงฉันถึงไว้ได้.
ก็เพราะพุทธเจ้าทั้งหลายเท่านั้น ทรงตระกะแสทางแห่งความประพฤติ
เสียหายทางกายทางวรรคและวิญญาณได้ดีดขาด โดยประกายทั้งปวงแล้ว จึง
ทรงบัญญัติศิลส่งนั้นไว้ อนันสมกรแกลกวามล่วงละเมิดนั่น ฯ.
อันนี้ ศิลาที่สมปฏิบุญด้วยบรรรคและผลเท่านั้น เชื่อว่า ศิลาที่ยิ่งแม้วว่า
ปภิโมกสงคราม. แต่ศิลาที่สมปฏิบุญด้วยบรรรคและผลนั้น ท่านมีได้ประสงค์
เอาในอธิฤ เพราะว่าภิกษุผู็พร้อมศิลนั้น หาสพเมุณธรรมไม่.
กามาวรูกุลจิต ฯ ดวง และสมบัติด ฯ ดวง ฝ่ายโล่ก็ร่วมเข้า
เป็นอนเดียวกัน พึงทราบว่า "จิตเท่านั้น." และในกาที่พระพุทธเจ้า
อุปติฺชั้นหรือไม่อุปติฺชั้น จิตนันก็เป็นไปอย่าง, การชำวนและการสมาทาน
ก็เป็นพราะโดยที่กล่าวไว้แล้วในศิลนี้แนล.
ส่วนสมาบัติด ฯ ดวง ที่เป็นบากแห่งวิสสนา ท่านเรียกว่า
"อธิฤ." จริงอยู่ อัญฺญสมาบัติด ฯ นั้น เป็นจิตที่ยิ่งและสูงสุดกว่ากลี
จิกทั้งหมด ดูอธิฤยิ่งกว่าบรรรคลทั้งหลายจะนั่น และมีอยู่เฉพาะ
ในพุทธรูปปกากาลเท่านั้น นอกจากพุทธปกกาลกาล หามิได้ อีกอย่างหนึ่ง
จิตที่สมปฏิบุญด้วยบรรรคและผลนั้น เป็นจิตที่ยิ่งแม้ว่าภิญญสมาบัติด ฯ
แต่จิตที่สมปฏิบุญด้วยบรรรคและผลนั้น ท่านมีได้ประสงค์เอาในอธิฤารนี้.