ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค(ค) - ปฐมสมุนไพาสากกะเบือ ภาค ๒ - หน้า ที่ 95
จำนวน เพราะได้นำฉันทะของกิริยาผู้สร้าฉันทะมาแล้ว และเพราะ
พวกกิริยาผู่อยู่พร้อมหน้ากันไม่คัดค้าน
บทว่า ฆาตติตุฏฺฐเน มีความว่า อนจะพิพากษาด้วยอุตุนา
๒ ครั้ง ฆติติ ๑ ครั้ง
บทว่า กุมมณ คือ วิธิธรรมอันชอบธรรม
บทว่า อญุปน ความว่า เข้าถึงความเป็นธรรมอันใด ๆ พึ่ง
ให้การริบไม่ได้ คืออนัน ๆ พิฆ่าด้านไม่ให้ เพราะถึงพร้อมด้วย
วัตถุปมิด ขุทติสมมิด อนวาสนสมมิด สิมาสมมิด และปริสมมิด
บทว่า ธานารเทน คือ ควรแก้เหตุ ได้แก่ควรแก้สถูลกาทน
ชื่อว่า อุปสัมบัน คือมาถึง อธิบายว่า บรรลุซึ่งภาวะอันสูง
อันความเป็นกิจกับเป็นภาวะในเบื้องบน (คือสูง) จริงอยู่ บุคคลนั้น
ท่านเรียกว่า “อุปสัมบัน” เพราะมาถึงความเป็นกิจกับนั้น ด้วยกรรมตาม
ที่กล่าวแล้ว
กีในถิรูกนี้ มาแต่ฆุตติฏฺฐูกจรรอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในที่นี้
ควรนำสังกรรมทั้ง ๔ มากกว่าไว้โดยพิสثาร คำนี้ทั้งหมดท่านกล่าว
แล้วในอรรถกถาทั้งหลาย และสังกรรมเหล่านั้น คือ อปรโลกนกรรม
ฆุตติกรรม ฆุติตุฏฺฐิกรรม ฆุติจุตุฏฺฐิกรรม บันฑิตพึงเรียงไวตาม
ลำดับ แล้วขักษามากล่าวโดยพิสุทธา จากคัมภีร์ชั้นธรณ และกัมวิรังค์
ในที่สุดแห่งคัมภีร์บริวาร จำพวกจักราชนาสงกรรมเหล่านั้นใน
กัมวิริงค์ ในที่สุดแห่งคัมภีร์บริวารนั้นแล้ว เพราะว่า เมื่อมีการสรรนาน
อย่างนั้น ปฐมปฐกิจวรรณะ จักไม่เป็นการหนักไป และการ
พรรนาณพระบามีตามที่ตั้งไว้ ก็จักเป็นวรรณะที่รุ่งได้ง่าย พึงฐานะ