คู่มือวิชาแปลไทยเป็นคม ป.๔-๗ คู่มือ วิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.4-9 หน้า 264
หน้าที่ 264 / 374

สรุปเนื้อหา

คู่มือวิชาแปลไทยเป็นคม ป.๔-๗ มีเนื้อหาที่ช่วยนักเรียนเข้าใจการแปลในภาษาไทยอย่างถูกต้อง โดยมีการอธิบายหลักการแกความที่ชัดเจน รวมถึงการใช้ศัพท์ที่มีน้ำหนักและไม่ทำให้ความหมายด้อยลง เช่น การอธิบายความที่สามารถขยายความจากบทหนึ่งไปยังบทอื่น ๆ ได้อย่างสมเหตุสมผล ทั้งยังมีตัวอย่างแนวทางการแกความเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนหรือความเข้าใจผิดในการใช้ศัพท์และวรรณกรรมอย่างถูกต้อง

หัวข้อประเด็น

-การแปลภาษาไทย
-หลักการแกความ
-การใช้ศัพท์ในภาษาไทย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๒๕๔๘ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นคม ป.๔-๗ (ก) บทที่แก่นั้น จะต้องมีน้ำหนักและได้ใจความคล้ายคลึงหรือเสมอกัน ไม่เนียมใช้ศัพท์ที่เมื่อใช้แล้วทำให้ความขาดน้ำหนัก หรือความหมายด้อยลงไป เช่น ความไทย : บทว่า ภิกขู แปลว่า ผู้ขอ ๆ เป็น : ภิกขุติ ภิกขโ ๆ (ไม่ใช่ ภิกขูติ ยาดโก ซึ่งทำให้ความด้อยไป) หลักการแกความ การแกความ ก็ คือการอธิบายความโดยยกบทตั้งขึ้นแสดงเพียงบทเดียว แล้วอธิบายความคลุมไปถึงบทอื่น ๆ ด้วยอย่างหนึ่ง ยกบทตั้งขึ้นอธิบายความไปทีละบท จนหมดกระแสความอย่างหนึ่ง ในการอธิบายความนั้น อาจมีเนื้อความเพียงประโยคเดียว หรือสองประโยคหรือว่านั้น หรืออาจมีประโยค ย ๓ เข้ามาเทราก เพื่อให้เนื้อความกระจ่างขึ้น อาจมีประโยคอุปมาอุปไมย มีข้อความเปรียบเทียบเข้ามาแสดงร่วมด้วย ซึ่งในลักษณะเช่นนี้และที่ทำให้เกิดความสับสน หรือความเข้าใจผิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเป็นการยากที่จะประกอบศัพท์และวรรณศัพท์ให้ถูกหลักเกณฑ์วิธีการ ในที่นี้จักชี้แจงพอบเป็นข้อสังเกต และพอเป็นแนวทาง ดังนี้ (๑) ในกรณีที่จำนวนไทยขึ้นบทตั้งแล้วลงว่า “เป็นต้น” แล้วอธิบายความไปหลายประโยคหรือหลาย ๆ คำ ซึ่งมากกว่าที่อยู่ในบทตั้ง อย่างนี้ไม่ต้องใช้ อาทิ ศัพท์เข้ามา เพราะคำว่า เป็นต้นเป็นเพียงจำนวน การ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More