การใช้กาลในภาษาไทยและนคร คู่มือ วิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.4-9 หน้า 124
หน้าที่ 124 / 374

สรุปเนื้อหา

คู่มืออาชาแปลไทยเป็นนครนี้กล่าวถึงความสำคัญของการใช้กาลในภาษาไทยเมื่อแปลเป็นภาษามคร โดยเฉพาะในประโยคต่างๆ การใช้กาลผิดอาจส่งผลต่ออรรถรสของภาษา การศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องกาลจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักศึกษา เพื่อให้การแต่งหรือเขียนภาษามครถูกต้องและชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการสังเกตการใช้กาลที่ถูกต้องในประโยคและตัวแปรต่างๆ ในภาษาไทยและนครที่ควรศึกษาเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของกาลในภาษา
-การสังเกตกาลในประโยค
-หลักการแปลระหว่างไทยและนคร
-การใช้กาลในอาขยาตและกิตติ
-การพัฒนาทักษะการเขียนภาษามคร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

คู่มืออาชาแปลไทยเป็นนคร ป.ธ.๕-๙ (5) ในประโยคเลขขนาด หรือ ประโยคเดินเรื่อง นิยมใช้กรียาอายขยายคุมพาขยบกว่ากรียากิต และส่วนมากจะใช้กัฑติหมดอัชฌัตนนี้ (6) ในประโยคเลขใน ที่เป็นอัศติภค คุมพาข์ โดยเฉพาะในรูป้มวาจา เรื่องกาล ความจริง เรื่องกาลนี้หากไม่สังเกตให้ดีหรือมองเห็นแล้ว ก็อาจจะเห็นว่าไม่เป็นเรื่องสำคัญและไม่ร้ายแรงนัก แต่พอมาถึงวิชาแปลไทยเป็นนครเข้า กลับเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาทันที เพราะเมื่อใช้กาลผิด ก็อาจทำให้เสียอรรถรสของภาษาได้ แม้บางทีจะไม่ถึงกับทำให้เสียความก็ตาม เพราะฉะนั้น นักศึกษาจึงต้องสำเหนียกจดจำ และศึกษารื่องกาลให้ “เข้าถึง” จริงๆ จึงจะสามารถแต่งหรือเขียนภาษามครได้ดี การสังเกตกาล หากส่วนในไทยออกกาลไว้ให้ชัดเจน เช่น “อยู่ ย่อม, กำลัง, แล้ว, ได้แล้ว” ก็จะจะไม่มีปัญหา ถ้าส่วนในไทยมีได้แปลออกกาลไว้ให้ จำต้องศึกษาถึงเข้าใจว่าเป็นกาลอะไรจะใช้ถูกกาลที่ใช้ในภาษามคร มีมาม ๒ แห่ง คือ กาลในอาขยาต กับกาลในกิตติ กาลในอาขยาตรุ้ได้ด้วยวิกิติตซึ่งประกอบกับธาตในศพท์กิริยาคุมพาขึ้นๆ กาลในกิตติรู้ได้ด้วยบัจจัยซึ่งประกอบกับธาตุในศพท์กิริยานั้นๆ ซึ่งขยายแจงและวิธีใช้โดยละเอียด ดังนี้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More