ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒ ๕ ๒ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นนคร ป.ธ.๔-๙
: ตตุล มรณุติ เอกวฺวรียนุนสุข ชีวิตนุกรียส อุปฺเปนโต ฯ (วิสุทธิ ๒/๑)
แบบที่ ๒ เป็นแบบวงศ์ที่ประกอบกัน นาม สัพธ์ ไว้ต้น ประโยค เป็นแบบอธิบายขยายความของสัพธ์ หรืคำที่ยมมาเพียงบางส่วนจากประโยคข้างต้น โดยมากจะมี “ตั้งอรรถ” หรือ “นิทภาณะใน........หน้า, แห่ง.......หน้า” อยู่ต้นประโยคด้วย ดังตัวอย่างที่ ๒.4 และตัวอย่างอื่นๆ เช่น : พาหสุจฉ์ นาม พุทธสุจฉาโร่ ฯ (มหคล ๑/๑๕) : สัปป ปน อนาคาริยามเถน ทุวิร ฯ หุตโกสูล ฯ : ตตุล อนาคาริยสัปป นาม อิสฺกิฺวา วิกฺข ปฺษา สมุนไพราจาริญฺงสฺ งฉชร ํ (มหคล ๑/๑๕)
: เสนาน นน ปน อปริคุติธิตงคุลส๚ นิมิตโตภาลปริก ฎา วฺฑิสดุ ฯ ตตุ๚ นิมิตติ นาม เสนานตฺู ภุมิปริมาณุมาทีโ กโรนตุส ฯ น โกจิตติ ปฏิวสน ฯ (วิสุทธิ ๑/๕๐)
แบบที่ ๓ เป็นแบบอธิบายขยายความของสัพธ์ที่ผ่านมาเป็นบางส่วนจากประโยคข้างต้น เช่น แบบที่ ๒ แต่ท่านเรียงไว้หลังท่อรบาย ดังตัวอย่างที่ ๒.๕ และตัวอย่างอื่นๆ อีก เช่น : ตตุล สงฺมชญํ นิสิฏฺฎวา ปริญชฺญณุตส ฯ ทูลสิสาล ฯ ปริโภโก เณยปริโถ ะน ฯ (วิสุทธิ ๓/๓๓) : ลิสโลโต อปฉวนเขตปริโชค อิตฺถิโปโล นาม ฯ (วิสุทธิ ๓/๓๓) แบบที่ ๔ เป็นแบบอธิบายขยายความของสัพธ์เช่นเดียวกับแบบที่ ๓ แต่ท่านมีได้เรียง นาม คำศัพท์ ไว้ด้วย ดังตัวอย่างที่ ๒.๗ และ