หลักการแต่งประโยคในภาษาไทย คู่มือ วิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.4-9 หน้า 349
หน้าที่ 349 / 374

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เกี่ยวกับการแต่งประโยคในภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้สังกรประโยค ซึ่งประกอบไปด้วยประโยคย่อยและประโยคใหญ่ เพื่อช่วยในการทำความเข้าใจและแยกเนื้อความให้ชัดเจนขึ้น นักศึกษาได้รับคำแนะนำในการศึกษาความยาวและรายละเอียดของเนื้อความทั้งในภาษาไทยและมคธ เพื่อช่วยในการปรุงแต่งประโยคอย่างถูกต้อง การแต่งประโยค ย ๓ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเขียนมีความชัดเจนและกระชับมากขึ้น โดยนักเรียนควรให้ความสนใจในเรื่องนี้ เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของตนเอง

หัวข้อประเด็น

-หลักการแต่งประโยค
-สังกรประโยค
-ภาษาไทยและภาษามคธ
-ประโยค ย ๓
-การแยกเนื้อความ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลักการแต่งไทยเป็นมรรค ป.ร.๙ ๑๑๑๑ แต่ก็เป็นไปในลักษณะตามแบบคือเข้าใจและจำได้ตามแบบเท่านั้น เมื่อคิดแต่งเองโดยที่ไม่เคยเห็นแบบมาก่อน ย่อมจะมีความลำบากพอสมควรเพราะจะต้องตีความให้แตก แยกประเด็นเนื้อความให้ออกก่อนว่าตอนใดควรจะแต่งรูปประโยค ย ๓ ตอนใดไม่ควรเพราะไม่จำเป็นดังนั้น จึงแยกมากล่าวไว้โดยเฉพาะอีกส่วนหนึ่ง ขอให้นักศึกษาลักลับไปทบทวนเรื่องสังกรประโยค ทั้งในภาษา มคธและในภาษาไทยที่แสดงไว้แล้วในบทต้นๆ ให้เข้าใจให้ดี ก่อน เพื่อจะได้ความเข้าใจในเรื่องการปรุงประโยค ย ๓ ตรงกัน กล่าวคือ ประโยค ย ๓ หรือสังกรประโยคนี้ ประกอบด้วยส่วนของประโยค ๒ ประโยค คือ ประโยค ย เรียกว่าสูประโยค หรือประโยคย่อย ทำหน้าที่ขยายความ คล้ายกับเป็นวิสิษณะของบทที่ขยาย และประโยคต เรียกว่า มูยประโยค หรือประโยคใหญ่ ทำหน้าที่เป็นประโยคประธานในการตีความและปรุงแต่งให้เป็นประโยค ย ๓ ต้องอาศัยความชำนาญ และเข้าใจในภาษาไทยและภาษามคธรวมกัน ซึ่งก็แล้วแต่ความที่กำหนดให้แต่งด้วย นักศึกษาพึงยึดหลักเบื้องต้น ดังนี้ ๑). กรณีที่สำเนวนไทยมีเนื้อความที่ยาว และสั้นสลับกัน และมีบทขยายความมาก นิยมแต่งเป็นประโยค ย ๓ เพื่อแยกประโยคให้ชัดเจนขึ้น ๒). เนื้อความตอนใดงว่าขยายเนื้อความตอนอื่น ให้แต่งเนื้อความตอนนั้นเป็น ประโยค ย ๓ ส่วนเนื้อความตอนอื่นให้แต่งเป็นประโยค ๓
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More