ข้อความต้นฉบับในหน้า
คู่มือวิชาแปลไทยเป็นครอ ป.ธ.๕-๙
- อนุปนาสูชเชสะ โย ย์ อิจฺจติ, ตสุส ตํ ยิสิจฺจติเมว สมุปชฺชติ ฯ (๑/๔)
- โย ธมฺมํ ปสุสติ, โส มํ ปสุสติ ฯ
- ยถา ตุมเห ตํ น ปสุสติ, ตรา โโลป เต ปาเนน ปสุสติ ฯ (๑/๙)
จึงพอสรุปได้ว่า ประโยคคำพุดนี้อาจสลับหรือวางได้ อาจง่ายๆ หรือสลับซับซ้อนก็ได้ ทั้งนี้ก็แล้วแต่เนื้อความในตอนนั้นๆ แต่จะอย่างไร ก็ตาม ก็จะต้องนับเข้าในประเภคชนิดใดชนิดหนึ่งตามที่กล่าวแล้วทั้งสิ้นหานอกเหนือไปจากนี้ไม่
ยังมีประโยคอีก ๒ ชนิด ที่มีไว้ใช้เป็นประโยคพิเศษที่มีเนื้อความไม่สมบูรณ์ในตัว แต่คอยแทรกอยู่ในประโยคใหญ่เพื่อให้ประโยคใหญ่มีเนื้อความสมบูรณ์ขึ้น ประโยคทั้งสองนั้นคือ ประโยคอนาทร กับ ประโยคคลาดะ แต่ ๒ ประโยคนี้มืออยากไมมากนัก จะกล่าวว่าหลังโดยเฉพาะ
โครงสร้างของประโยค
ก่อนที่จะเรียนรู้วิธีการเรียงคำเข้าประโยค เพื่อให้ได้เนื้อความและถูกต้องตามหลัก จำเป็นที่จะต้องศึกษาระงสร้างของประโยคก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าในแต่ละประโยคนันประกอบด้วยโครงสร้างอย่างไร และควรส่วนประกอบนั้นๆ ไว้ที่ไหน เป็นต้น เมื่อศึกษาข้อนี้ได้แล้ว ก็จะเป็นการสะกดคำที่จะศึกษาขั้นต่อไป