ข้อความต้นฉบับในหน้า
คู่มือวิชาแปลไทยเป็นนคร ป.ศ.๔-๙
ความไทย : ไม่อะไรหรอครับ
เป็น : น กัญจิ ญาณ ต ไม่ใช่ น ก็ ญาณต
ความไทย : ในสามอย่างนั้น ที่ชื่อว่าบินิมิต ได้แก่ การที่เมื่อ
ภิญญุ ทำกิจมีปรับพื้นที่เพื่อสร้างเสนาะอยู่ เมื่อ
พวกคฤหัสถะว่า ท่านทำอะไร ครับ ใครใช้
ให้ท่านทำ ให้คำตอบว่า ไม่มีใครให้อาดามทำ
เป็น : ตกตุ นิยมิติ นาม เสนาสนตุ ภูมิบริบูรณ์มาที
กรุงเทพ ก็ อนุต กโรติ โก การเปติติ
คิหิ วุฒา น โกลิเด ปฏิวัต (วิสุทธิ ๑/๕๐)
ไม่ใช่ : บพฺ น โกลิ เด ปฏิวัต
(๒) ในประโยคบอกเล่าธรรมดาที่มีเนื้อความปฏิเสธ และไม่ต้อง
การคำตอบ มีจำนวนไทยว่า “จะมีอะไร... จะมีประโยชน์อะไร... จะ
ต้องการอะไร...” แล้วต่อด้วยจำนวนไทยว่า “ด้วย” หรือ “กับ”
นิยมใช้ ก็ศัพท์ว่างได้ในประโยค ต่อด้วยนิดา (ถ้ามี) ต่อด้วยนาม
เจ้าของซึ่งต้องเป็นสุดติฎิกิริยติ ก็ แล้วจึงตามด้วยบทที่ถูกฎิฏิเสธ ซึ่ง
ประกอบเป็นติยาวิตติดิตเสมอ เช่น
ความไทย : เราจะมีประโยชน์อะไร ด้วยการเป็นอยู่
(เราจะอยู่ไปทำไม)
เป็น : กิ เม ชีวีตน (๖/๒๔)
ความไทย : สำหรับบุคคลผู้นิพนธ์ถามเช่นนั้น จะมี
ประโยชน์อะไรด้วยซึา จะมีประโยชน์อะไรด้วย
หนังเสือเหลืองอันมีเล็บ