คู่มืออาชาเปลไทยเป็นมรรค ป.5-9 คู่มือ วิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.4-9 หน้า 298
หน้าที่ 298 / 374

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้เสนอชนิดของวลีในภาษาไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 ชนิด ได้แก่ นามวลี สรรพนามวลี กริยาวลี วิเศษณะวลี บุพบทวลี โดยมีตัวอย่างการใช้งานในประโยคต่าง ๆ นามวลีมีคำหนนำหน้า เช่น "อยู่บนโต๊ะ" และ "เหมาะสำหรับพระที่ออยู่ป่า" สรรพนามวลีมีคำสรรพนามนำหน้า เช่น "กระผมพระธรรมกิตติวงศ์" และ "ท่านผู้มีเกียรติหลาย" กริยาวลีมีคำกริยานำหน้า เช่น "กระผมกำลังทำงานแข่งขันเวลาอยู่" วิเศษณะวลีมีคำวิเศษณะนำหน้า เช่น "วัดนี้เป็นวัดสงวยามและใหญ่โตมาก" บุพบทวลีมีคำบุพบทนำหน้า เช่น "ในสมัยพุทธกาล" มาศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวลีกันได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-นามวลี
-สรรพนามวลี
-กริยาวลี
-วิเศษณะวลี
-บุพบทวลี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

คู่มืออาชาเปลไทยเป็นมรรค ป.5-9 ชนิดของวลี วิธีแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะที่อยู่ในประโยคได้ 7 ชนิด คือ 1. นามวลี คือวลีที่มีคำหนนำหน้า เช่น - แบบไวญากรณ์ของสามเศร อยู่บนโต๊ะ - จิวลี่สรัก เหมาะสำหรับพระที่ออยู่ป่า 2. สรรพนามวลี คือวลีที่มีคำสรรพนามนำหน้า เช่น - กระผมพระธรรมกิตติวงศ์ เป็นผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ - ท่านผู้มีเกียรติหลาย กำลังหยอโยกันมาแล้ว 3. กริยาวลี คือวลีที่มีคำกริยานำหน้า เช่น - กระผมกำลังทำงานแข่งขันเวลาอยู่ - ทำงานเสร็จแล้วหรือ พวกท่านทั้งหลาย 4. วิเศษณะวลี คือคำวลีที่ผ่านมา เช่น - วัดนี้เป็นวัดสงวยามและใหญ่โตมาก - เกิดเป็นคนต้องพยายามไม่พาความเจริญ ที่จะทำให้ตัวก้าวหน้า 5. บุพบทวลี คือคำวลีคำบุพบทนำหน้า เช่น - ในสมัยพุทธกาล แม้เรื่องอย่างนี้กเคยเกิดขึ้นมาแล้ว - อาจารย์ของพระภิฏฐุปั่นเป็นเพื่อนรักของกระผมเอง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More