ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักการแต่งไทยเป็นมงคล ป.อ.๙ ๗๐๗
: สีฤชาพามาตติ เอตุจ สีฤชายา กามิตติ สุตขาวาโม, ตสุส ภาโอ สีฤชามาตา ฯ สา ปาณาย โลกสม เรว ฯ ฯ มุสสุ จ สัตตูิกา ฯ
๒. ในข้อความที่อธิบายข้อธรรมแต่ละอย่างใหละเอียดขึ้น นิยมเติมข้อความนั้น ๆ ไว้ให้ครบก่อน แล้วจึงแยกแต่งทีละข้อธรรมทีหลัง โดยใช้ศัพท์นิรนธระและนิธาธระธนะ เป็นตัวเชื่อมความ เช่น:
: ตตรินม ปญฺญ สนฺธิโอ อุตฺโค ปริจฺฉนา อุปฺมาจา อุปฺมนา ลุกขนดิ ๆ ตุตฺ อุตฺโค นาม กมฺมุญฺฐานสฺสูฏฺ อุคฺคหนึ่ ๆ
ในกรณีที่ข้อความมีอุปมาปนอยู่ด้วย ก่อนที่จะแต่งข้อความอุปมานั้น นิยมแต่งเติมSucceeded ว่า “ตรตราย อุมาม” หรือ “นิทสฺสนฺ์ เอตตู ทุจฺฺรูป ฯ” ไว้ข้างต้นก่อน เมื่อแต่งข้อความอุปมาหมด แล้ว หากข้อความภาษาไทยไม่มีอุปมายต่อ นิยมแต่งเติมประโยคอุปไมสิ้นๆ ว่า “เอาวํ สมฺภูมิทํ ฯ” หรือ “เอวํ สมฺภูมิทํ ทุจฺฺรูป ฯ” ต่อท้ายข้อความอุปมาไว้ด้วย เช่น
: จิตตมนตรี กนฺฺจปิวาติ ยถาสาสนฺ ปฺฏฺติโต อนฺโฏ สมฺมาสมาธิ ฯ สารุจี ปริวุตเตตุ สกฺกา โหติ ฯ นิทสฺสนฺ์ เอตตู ทุจฺฺรูป ฯ ยงกุจิ ฐณฺฑิ ภณุํ ปุฬฺเพว อสูนาคมิ ปจฺจา ปน สกฺกา โหติ ปนปนํา สุริภิวนสฺเสน สุคนธ์ กาตูๆ