คู่มืออักษรแปลไทยเป็นคง ป. : หน้า 334/374

คู่มืออักษรแปลไทยเป็นคง ป.,4-9 ตามตัวอย่างข้างต้น ท่านปรุงประโยคใหม่ด้วยการตัดความ แล้วตัดความ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ “อิต” ในประโยคหากแต่งเป็นประโยค “อิต” ตามสำนวนไทย เช่น แต่งว่า เตเนว ภควา “น ore หิ...อิมมิ จตุทิ ธุมเมธิ อุตตโน อุตตโน นิวามสุตคามาทิสงขาด ทีปี อภิบาลเลยอาติ พุทธปรัสาย โอวาททุสนาสน์ อถาล ฯ ย่อมเป็นการแสดงว่าข้อความใน “อิต” ทั้งหมดเป็นพระดำรัสของพระพุทธเจ้า จริง ๆ ข้อนี้ขอให้นักศึกษารีบทำความเข้าใจให้ดีเด่น จะเข้าถึงความนิยมทางภาษาได้อย่างแจ่มแจ้ง กล่าวโดยสรุว่า ประโยคที่เป็นพระพุทธพลนั้น หากไม่แน่ใจ หรือจำพระพุทธพลไม่ได้ ก็ไม่ควรปรุงประโยคเป็นรูป D “อิต” หรือที่งการบาบเลี่ยงว่า ประโยคเลขนอกเลขใน ควรถิกความและตัดแต่งความเสียใหม่แล้วปรุงให้รูปประโยคตามปกติ โดยที่เนื้อความไม่เสียไปมากนัก อันนี้ก็อยู่ที่ความฉลาดสามารถในการตีความและตัดความสำคัญ ประโยคแบบ ประโยคแบบ คือ ประโยคที่ท่านปรุงรูปประโยคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงยิ่งไปต่างๆ เหมือนรูปประโยคอื่นๆ ถือว่าเป็นความนิยมทางภาษาไปโดยปรัย่ย เมื่อพบทไหนก็จะมีผู้อย่างนั้น ประโยคแบบดังกล่าวนี้ มีไม่มากนัก ข้อให้นักศึกษาจำรูปประโยคไว้ให้แน่นยำเพื่อสะดวกในการปรุงประโยค ไม่ต้องเสียเวลาไปคิดใหม่ เมื่อจำนวน