ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักการแต่งไทยเป็นนกรม ป.ร.๙ ๒๕๕
- อิทธิ ขนิษมรรณฐติ ฤจจจติ ๆ
ในการปรุงประโยคแบบนี้ มีข้อสังเกตดังนี้
๑. สรรพนามที่เรียงไว้ต้นประโยคไม่มีนามตาม คือ ไม่ต้องใส่นาม ซึ่งเป็นบทประธานเข้ามา แม้ว่าในส่วนในไทยจะมีกำหนด ถ้าใส่เข้ามาด้วยถือว่าผิดความนิยมน
เช่น สำนวนไทยว่า "ขันนี้เรียกว่ารูปขันธ์" แต่ว่า "อย ขุนโจ ฤจจติ รูปขุนโจ" ถือว่าผิด ที่ถูกต้องเป็น "อย ฤจจติ รูปขุนโจ"
๒. ถ้าเรียง ฤจจติ ไว้หน้ามีเรียก ไม่ต้องใส่อิติ ต่อท้าย นามที่เรียก ถ้ามี อิติ ต่อท้าย แม้ว่าจะถูกหลักการเรียงทั่วไป แต่ก็อาจว่าผิดความนิยมทางภาษา
เช่น สำนวนไทยว่า "ทรัพย์นี้เรียกว่าอรย์ทรัพย์" แต่ว่า "อิทธิ ฤจจติ อรัยญนติ ฯ" ถือว่าไม่ถูกความนิยม ที่ถูกต้องเป็น "อิทธิ ฤจจติ อรัยญนติ"
๓. ถ้าเรียง ฤจจติ ไว้หลังนามที่เรียก จะต้องใส่อิทธิ เข้ามารับ ถ้าไม่ใส่อิทธิ เข้ามารับ ก็ถือว่าผิดความนิยมทางภาษาเช่นเดียวกัน
เช่น แต่ว่า "อย โมษปุริโล ฤจจติ ฯ ถือว่าไม่ถูก ที่ถูกต้องเป็น "อย โมษปุริโล ฤจจติ"
แต่ทั้งนี้ ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่จะแต่งรูปประโยคเป็นแบบนี้เท่านั้น หากแต่งเป็นรูปประโยคเต็มความที่กำหนดให้แจ้งจะมี ฤจจติ อยู่ด้วย ก็ต้องแต่งไปตามหลักการเรียงกริยาเหมือนกริยาควบพิเศษอื่น ๆ เช่น