ข้อความต้นฉบับในหน้า
๖๒ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙
วิธีเรียงประโยคลักขณะ
ประโยคลักขณะ เป็นประโยคแทรกเข้ามาในประโยคใหญ่ เพื่อ
ทําให้เนื้อความชัดเจนขึ้น
ประโยคนั้นด้วย
ทั้งทําหน้าที่ขยายเนื้อความข้างหลังใน
ประโยคลักขณะ ก็เหมือนกับประโยคอนาทร ทั้งนามและกิริยา
แปลกแต่ว่าในประโยคลักขณะต้องประกอบด้วยสัตตมีวิภัตติเท่านั้น แม้
วิธีการเรียงในประโยคก็มี ๒ ลักษณะดังกล่าวแล้วเช่นกัน เช่น
ข้อสังเกต
:
๒
: ปฐมมาเส อติกฺกนฺเต อกฺขิโรโค อุปปัชชิฯ (๑/๙)
เทว ตย์ รัชช์ กาเรนเต อรุโณ น อุฏฐาติ ฯ (๑/๓๙)
: ตุมเห นาม มาทิสสส พุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตวาปิ
มติ สามคฺคี กโรนเต มม วัจน์ น กริตฺถ ฯ (๑/๕๙)
ประโยคอนาทรกับประโยคลักขณะทั้งสองนี้ หากมองในความ
ภาษาไทยแล้วแทบจะไม่รู้เลยว่า ความตอนนี้เป็นประโยคชนิดใด เพราะ
ในวิชาแปลมคธเป็นไทย เราบัญญัติไว้ว่า อนาทรให้แปลว่า “เมื่อ”
ลักขณะให้แปลว่า “ครั้นเมื่อ” ต่างกันอยู่ แต่ในวิชาแปลไทยเป็นมคธ
นิยมแปลว่า “เมื่อ” เหมือนกันทั้งสองอย่าง จึงทำให้สับสนยากที่จะ
ตัดสินใจว่าความนี้เป็นประโยคอนาทร หรือประโยคลักขณะ
เท่าที่สังเกตดูพอจับเค้าได้ว่า หากเนื้อความตอนนั้นต่อไปว่า
อาจแปลเป็น “แห่ง” หรือ “ของ” และเข้ากับประธานในประโยคหรือ
ศัพท์ใดศัพท์หนึ่งในประโยคก็ได้ คือเป็นได้ทั้งอนาทรและสามีสัมพันธะ