ข้อความต้นฉบับในหน้า
การแปลงประโยคและการล้มประโยค ๒๑๙
วิธีแปลงประโยคกัตตุวาจกเป็นกัมมวาจก
ดังกล่าวมาแล้วในบทก่อนว่า ในประโยคกัตตุวาจก ท่านเน้นตัว
กัตตาเป็นตัวประธานของประโยค ในประโยคกัมมวาจก ท่านเน้นตัว
กรรมเป็นประธานของประโยค แต่ถ้าความไม่ชัดเจนลงไปว่า เป็น กัตตุ
หรือเป็นกัมม คือ อาจเป็นได้ทั้งสองอย่าง ก็อาจแต่งเป็นรูปประโยค
ไปโดยอิสระได้ เช่น
ความไทยเป็นกัตตุ, อาจแปลงเป็นกัมม. ได้ วิธีการแปลงประโยค
เช่นนี้ จึงยึดถือหลักง่ายๆ จากตัวอย่างก่อน คือ
กัตตุวาจก : สูโท โอทนํ ปจติ ฯ
กัมมวาจก : สูเทน โอทโน ปจิยเต ฯ
หลักนี้ถือว่าเป็นแม่บท ต้องจำให้ได้แม่นยำ
ตามตัวอย่างนี้มี
ข้อน่าสังเกตอยู่ และควรถือว่าเป็นหลักในการแปลงประโยคกัตตุ เป็น
กัมม. เลยทีเดียว คือ
(๑) ประโยคที่จะแปลงกัตตุ เป็นกัมม. ได้ จะต้องมีกิริยาคุมพากย์
เป็นสกัมมธาตุ (ธาตุเรียกหากรรม) เท่านั้น
(๒) บทกัตตา (ตัวประธาน) ในประโยค กัตตุ, จะต้องเป็นตัว
อนภิหิตกัตตา ประกอบด้วยตติยาวิภัตติ เมื่อกลับเป็นประโยคกัมม
(๓) บทกรรม (อวุตฺตกมฺม) ในประโยคกัตตุ เมื่อกลับเป็นประโยค
กัมม. จะต้องกลับเป็นตัววุตฺตกมฺม (ตัวประธาน) ประกอบด้วยปฐมาวิภัตติ
(๔) บทกิริยา ในประโยคกัตตุ, จะต้องเปลี่ยนเครื่องปรุง คือ