ข้อความต้นฉบับในหน้า
การเรียงประโยคอธิบายความ ๒๕๓
ตัวอย่างอื่นๆ อีก เช่น
:
ปรสุส มมุมจเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฐาปิกา
เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสวาจา ฯ (วิสุทธิ์ ๑/๒๑๗)
โดยสรุปแล้ว แบบที่ ๑ ใช้เฉพาะกรณีที่แก้อรรถ ซึ่งชี้แจงเริ่ม
ต้นเรื่อง และมีที่ใช้น้อย ที่ใช้มากที่สุด คือ แบบที่ ๒ ซึ่งเป็นแบบอธิบาย
ความ หรือไขความทั่วๆ ไป แบบที่จะต้องใส่ นามศัพท์ ตามหลังบทนาม
ด้วยเสมอ ส่วนแบบที่ ๓ และแบบที่ ๔ ใช้แทนกันได้ คือ จะมี นามศัพท์
กำกับอยู่ด้วยหรือไม่ก็ได้ ไม่ถือเป็นผิด ขอให้ดูตัวอย่างในประโยคดัง
ต่อไปนี้เป็นแบบยืนยัน
:
ตตฺถ อปริคคหิตธุดงฺคสฺส สงฺฆโต วา คุณโต วา ธมฺม
เทสนาทีห์ จสุส คุเณหิ ปสนฺนาน คิดีน สนฺติกา อุปฺปนฺนา
ปญฺจยา ปริสุทธุปปาทา นาม ปิณฑบาตจริยาที่หิ ปน
อติปริสุทธุปปาทาเยว ๆ ปริคคหิตธุดงฺคสฺส ปิณฑปาต-
จริยาที่หิ
ฯเปฯ
ธุตงฺคนิยมานุโลเมนอุปปันนา
ปริสุทธุปปาทา ๆ (วิสุทฺธิ ๑/๕๐)
ในกรณีที่แต่งเป็นแบบที่ ๒ ซึ่งต้องวาง นาม ศัพท์ไว้ด้วยนั้น
หาก นักศึกษาไม่วางไว้ จะทำให้ประโยคขาดความสละสลวยไป และ
จะทำให้เสียความไปก็ได้ เช่น ประโยค ว่า
ความไทย : อุปจารพร้อมทั้งสัมภาระ ชื่อว่าปฏิปทาวิสุทธิ
อัปปนา ชื่อว่าการพอกพูนอุเบกขา การพิจารณา
ชื่อว่าสัมปหังสนา ฯ