กฎเกณฑ์การเรียงประโยค ๖๓ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ วิชาแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ หน้า 79
หน้าที่ 79 / 374

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเรียงประโยค โดยมีการอธิบายตัวอย่างสองตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการวิเคราะห์และการแปลประโยคในภาษาไทยและบาลี ทั้งนี้ในการเรียงประโยคจะมีการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างประโยคต่างๆ เพื่อให้เนื้อหาสอดคล้องและเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงประโยคที่อาจมีการแยกตัวออกไปจากเนื้อเรื่องหลัก รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ภาษาที่ถูกต้องและวิธีการในการแปลประโยคทั้งสองภาษาเพื่อรักษาความหมายดั้งเดิมของเนื้อหาในแต่ละบริบท สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-การเรียงประโยค
-ตัวอย่างการแปล
-ความสัมพันธ์ระหว่างประโยค
-การใช้ภาษาที่ถูกต้อง
-กฎเกณฑ์ด้านไวยากรณ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กฎเกณฑ์การเรียงประโยค ๖๓ อย่างนี้ ความตอนนั้นจะเป็นประโยคอนาทรเสียเป็นส่วนมาก แต่ถ้าความตอนนั้นไม่ส่อไปในลักษณะนั้น แยกตัวต่างหาก เบ็ดเสร็จไปเลย ไม่มีเค้าว่าจะสัมพันธ์เข้ากับบทใดบทหนึ่งในประโยคนั้น ได้เลย เนื้อความตอนนั้นจัดเป็นประโยคลักขณะแน่ ดูตัวอย่างประกอบ : เมื่อน้องชายนั้นร้องไห้อยู่ทีเดียว พี่ชายไปยังสำนักพระ ศาสดาแล้ว ทูลขอบวช : ตสฺส วิรวนตสุเสว สตฺถิ สนฺติก คนตวา ปพฺพชช์ ยาจิตวา....... (๑/๗) ในประโยคนี้เมื่อกลับเป็นภาษาบาลีแล้ว อาจแปลได้อีกอย่างหนึ่ง ว่า พี่ชายของน้องชายผู้กำลังร้องไห้อยู่ทีเดียว ไปยังสำนักของพระ ศาสดา ทูลขอบวชแล้ว - เมื่อพระเถระไม่ยอมจีบหลับ เมื่อผ่านไปเดือนแรก โรคตาก็เกิดขึ้น ฯ : เถรสส นิทท์ อโนทุกมนฺตสฺส ปฐมมาเส อติกกันเต อกขิโรโค อุปปชช ฯ (๑/๔) ประโยคนี้ ส่อให้แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า เมื่อผ่านไปเดือนแรก โรคตาของพระเถระผู้ไม่ยอมจีบหลับก็เกิดขึ้นแล้ว ดังนี้ ในตัวอย่างทั้งสองนี้ เราอาจเรียงเป็นว่า ตสฺมึ วิรวนเตเยว และ เป็น เถเร นิทท์ อโนทุกมนฺเต ก็ได้ แต่เนื้อความจะขาดห้วนเด็ดขาด ทํานองไม่เกี่ยวกับศัพท์ใดในประโยค ทั้งๆ ที่ส่อว่าสัมพันธ์กันอยู่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More