ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคและส่วนของประโยค
สาวตถิย์ กร มหาสุวณฺโณ นาม กุฏมพิโก อโหสิ อฑฺโฒ
มหทธโน มหาโภโค อปุตฺตโก ๆ (๑/๓)
๒. อเนกรรถประโยค คือประโยคที่มีเนื้อความหลายตอนต่อ
เนื่องกันจึงจะได้ความสมบูรณ์ หากมีเฉพาะตอนเดียว เนื้อความจะไม่
สมบูรณ์ และไม่อาจรู้เรื่องชัดเจนได้ ซึ่งก็ได้แก่เอกัตถประโยค ตั้งแต่ ๒
ประโยค ขึ้นไปต่อเนื่องกัน โดยมีนิบาตเป็นตัวเชื่อมประโยคนั่นเอง
นิบาตประเภทนี้เรียกว่า “สันธานนิบาต (นิบาตเชื่อมความ)”
ได้แก่นิบาตจำพวก หิ จ ปน สเจ ยติ กิญจาปิ วา วา ปน อถวา
เป็นต้น เช่น
๓.
ภนฺเต อห์ มหลุลูกกาเล ปพฺพชิโต คนถธุร์ ปูเรต น
สกขิสสามิ, วิปสฺสนาธร ปน ปูเรสสามิ ฯ (๑/๒)
สเจ เต อครุ, วเสยยาม เอกรตติ สาลาย ฯ (๑/๓๗)
ปฐมาคโต อิมินา สุทธิ์ เอกโต วสิตกาโม ภเวยย วา
โน วา ฯ (๑/๓๗)
สังกรประโยค คือ ประโยคที่ทีเนื้อความคาบเกี่ยวกันโดยช่วย
ขยายความให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ได้แก่ เอกัตถประโยค ซึ่งมีเอกัตถประโยค
อีกประโยคหนึ่งมาช่วยทำหน้าที่ขยายความปรุงแต่งให้ประโยคแรก
ชัดเจนขึ้น สังกรประโยคในภาษาบาลี คือ ประโยคที่นักศึกษารู้จักกันว่า
“ประโยค ย ต” นั่นเอง เช่น