ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๙๖ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙
๑. เมื่อถือว่าเนื้อความภาษาไทยที่ถูกกำหนดแต่งเป็นต้นฉบับ ผู้
แต่งความจากต้นฉบับให้เป็นภาษามคธจะต้องพยายามให้ผู้อ่านภาษามคธ
มีความเข้าใจเนื้อเรื่องตรงกันกับผู้ที่อ่านต้นฉบับ หมายความว่าคนที่อ่าน
ข้อความจากต้นฉบับ กับคนที่อ่านจากภาษามคธที่แต่งแล้วนั้นมีความ
เข้าใจตรงกัน
๒. ผู้แต่งจะต้องจับประเด็นใจความภาษาไทยที่เป็นต้นฉบับให้
ได้ก่อน เพื่อจะได้สื่อหรือถ่ายทอดประเด็นนั้นมาสู่ภาษามคธได้ถูกต้อง
ครบถ้วนตามต้นฉบับ ในกรณีนี้ผู้แต่งจะต้องมีความรู้ความชำนาญใน
ภาษาไทยได้ดีพอสมควร จึงจะสามารถจับประเด็นได้ดี
๓. ผู้แต่งต้องพยายามรักษาความหมายเดิมของต้นฉบับไว้ให้
มากที่สุด นอกจากนั้นยังต้องพยายามใช้ภาษามคธอย่างเป็นธรรมชาติ
และสอดคล้องต้องกันกับความนิยมของภาษามคธอย่างแท้จริง ในกรณี
นี้ผู้แต่งจะต้องมีความรู้ความชำนาญในภาษามคธได้ดีพอสมควร เช่น
รู้จักใช้คําอย่างเหมาะสมกับเรื่อง มีความละเอียดในการประกอบศัพท์
สร้างประโยค
๔. ในการอ่านเนื้อความภาษาไทย ตามปกติความคิดของผู้อ่าน
จะผูกพันและติดอยู่ในกรอบของภาษาไทย แต่ในการอ่านเพื่อนำไปแต่ง
เป็นมคธ ผู้อ่านจะต้องทิ้งกรอบของภาษาไทย เช่น โครงสร้างประโยค
การเรียงค่า การใช้ค่าให้หมด น่าไปแต่เพียงเนื้อความไปแต่ง โดยไม่
ให้อิทธิพลของภาษาไทยเข้าไปรบกวนความคิดในขณะแต่ง หาไม่แล้ว
สำนวนมคธที่แต่ง จะกลายเป็นสำนวน “บาลี-ไทย” คือคำเป็นมคธ
แต่สำนวนเป็นแบบไทยไป เช่น สำนวนว่า “พยนฺโฆ โภชน์ ภุญชติ =