ข้อความต้นฉบับในหน้า
สัพพนาม
:
เบ็ดเตล็ด ๓๔๗
อญฺญตร แปลว่า อย่างใดอย่างหนึ่ง คนใดคนหนึ่ง เป็น
๒๕. นิบาต คือ ปี อปิจ เอว อิว ให้เขียนติดกับบทหรือ
ศัพท์ที่ตนกำกับเลย เป็น วิสาขาปี คจฉนฺโตปิจ เอวเมว การณมิว
เป็นต้น ส่วน ว ที่แปลว่า เที่ยว ให้ห่างนิดหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้สับสนกับ
อิว เมื่อเข้าสมาส
๒๖. การเขียนพยัญชนะสังโยค ต้องเขียนให้ถูก อย่าให้สังโยค
ผิดวรรคอักษรกัน เช่น เขียนว่า อานิสงโส นิสสงสเยน กุลวงโส
อุตสาโห ตณฺหิ ตงปน เป็นต้น
๒๗. ศัพท์ อวุตฺตกมฺม (ซึ่ง) ที่เข้ากับศัพท์กิตก์ ประกอบด้วย
ณว ๆ ยุ ปัจจัย อย่าลืมต้องแต่งเป็นรูปฉัฏฐีวิภัตติ เช่น สพฺพปาปสฺส
อกรณ์ เป็นต้น (เรียกว่า แปลหักฉัฏฐีเป็นกรรม)
๒๔. ศัพท์สมาสนิยมทั้งต้องสังโยค และไม่ต้องสังโยค ศัพท์
ใดนิยมศัพท์ใด ไม่นิยมอย่างไร ต้องกำหนดให้ดี เช่น ปุญญ์ + เขตต์
นิยมสังโยคเป็น ปุญญเขตต์ ไม่ใช้เป็น ปุญญเขตต์ เป็นต้น
๒๙. ศัพท์ที่ประกอบด้วย ๆ ปัจจัย เช่น กาตุ คน ถ้าทำ
หน้าที่เป็นประธานในประโยค กำหนดให้เป็น นป.เอก, กิริยาจึงต้อง
ประกอบเป็นรูป นป.เอก, ตามด้วย เช่น
: อิทานิ มยุห์ คนต์ ยุตต์ ฯ
๓๐. คำว่า “ควร” มาจากศัพท์กิริยา ก็มี มาจากศัพท์นาม ก็
มี มีวิธีที่พอกำหนดได้ดังนี้