หลักการแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ ๓๓๑ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ วิชาแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ หน้า 347
หน้าที่ 347 / 374

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอหลักการแต่งประโยคไทยและมคธ โดยเน้นการใช้คำและโครงสร้างประโยคที่ถูกต้องตามความนิยม พร้อมตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการเลือกใช้คำที่เหมาะสม เช่น การแปลประโยคและการใช้คำว่า 'ไซร้' ในการสร้างสำนวนให้สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการแสดงความเมตตาผ่านบทสนทนาในภาษามคธ โดยแสดงความสำคัญของการใช้ถ้อยคำให้ถูกต้องเพื่อสื่อความหมายที่ดี การแต่งประโยคที่มีความหมายที่มีเงื่อนไขและผลลัพธ์ในตัวก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างละเอียด และเนื้อหาต่อจากนี้จะให้ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการใช้ภาษาในบริบทต่าง ๆ ของพระพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-การแต่งประโยคไทย
-การใช้ภาษาไทย
-การแปลประโยคทางศาสนา
-ความนิยมในการใช้คำ
-การพัฒนาภาษา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลักการแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ ๓๓๑ ข้อสังเกตในเรื่องการแต่งประโยค เจ สเจ ยที นี้ คือพึงระวัง และพิถีพิถันในการใช้ให้มาก ในกรณีใดควรใช้ ในกรณีใดไม่ควรใช้ และในกรณีใดใช้ไม่ได้ เพราะไม่ถูกความนิยม จึงใช้ให้ถูกความนิยม ซึ่งในที่นี้ขอให้พิจารณาจากตัวอย่างต่อไปนี้ ไทย : พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ถ้าผู้ใดประพฤติ ปฏิบัติตาม ย่อมได้รับความเจริญก้าวหน้าโดยส่วนเดียว มคธ : พุทธสาสน์ จ นาม พหุปการ โหติ, สเจ โย ต อนุจรติ, โส เอกนุเตน วุฑฒิ วิรุฬห์ เวปุลลญจ ปาปุณาติ ฯ ข้อสังเกต ประโยคนี้แม้ไม่มี สเจ ก็สามารถคุมเนื้อความได้ และประโยค ย ต ถือว่าเป็นประโยคเดียวกัน เรียกว่าสังกรประโยค เพราะฉะนั้นเวลาแปลจะต้องแปลให้จบประโยค ย ต เสียก่อน แล้วจึง ลงคำว่า “ไซร้” เมื่อเป็นดังนี้ ประโยค สเจ ข้างต้นก็กลายเป็นสำนวน ที่มีประโยคเดียว คือประโยคเงื่อนไข ส่วนประโยคผลไม่มี และความ จริงประโยค ย ต นั่นเอง ก็มีเนื้อความเป็นประโยคเงื่อนไขและประโยค ผลในตัวอยู่แล้ว ประโยคนี้ถ้าตัด สเจ ออกศัพท์เดียวก็จะสมบูรณ์ทั้ง คำและความ ไทย : ก็ถ้าเรามีเมตตาแล้ว จำาเป็นที่ทางราชการซึ่งเป็นผู้ที่มี ความรู้มากกว่า เป็นผู้มีฐานะดีกว่า ควรจะไปช่วย ๆ มคธ : สเจ ปน เมตตาทิยเกส, เย ราชกิจจกรา พหุตรมนุ เจว อเหตุ จาตุตตรา จ, เตเหว เตส์ ชนบทวาสีน สงฺคโห กาตพฺโพ ฯ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More