ข้อความต้นฉบับในหน้า
๗๖ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙
เป็น
ไม่ใช่
: ตสฺส หตุปาทา จ อกขึ้น จ กรุณา จ นาสา
จ มุขญจน ยถาภูฐาเน อเหตุ ฯ (๓/๑๒๑)
: หตุปาทา จ อกุนิ จ กรุณา จ นาสา จ. ตสฺส
มุขญจ น ยถาฏฐาเน อเหตุ ฯ
๔. เมื่อมี จ ศัพท์ควบหลายตัว จ ศัพท์ตัวแรกนิยมสนธิกับ
เอว เป็น เจว เหมือน น ศัพท์ เช่น
- ฉินนคุคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคโคภคคุญฺจ เม
สาขาองค์ ขาทนฺติ ฯ (๑/๕๓)
: ภนฺเต ภควา พุทธสุขุมาโล เจว ขตฺติยสุขุมาโล จฯ
(๑/๕๙)
๕. เมื่อ ๑ ศัพท์มีหน้าที่ควบตัวประธานที่เป็นเอกพจน์ตั้งแต่
๒ ขึ้นไป นิยมประกอบกิริยาเป็นพหูพจน์ เช่น
:
:
โกฏฐาคาริโก จ อายุตฺตโก จ เอกโต หุตวา ติณณ์
ภาติกานํ โกฏฐาคาเรหิ วาเรน วาเรน วฏฏ เหตุวา
ทาน เทนฺติ ฯ (๑/๙๓)
- คาถาปริโยสาน พราหมโณ จ พราหมณี จ
อนาคามิผเล ปติฏฐที่สุ ฯ (๒/๔๑)
แต่ถ้าประธานนั้นๆ มีเนื้อความบ่งว่าต่างแยกกันทำ หรือแยก
กันเป็น แม้จะใช้กิริยาร่วมกัน ก็ไม่ต้องเปลี่ยนกิริยาเป็นพหูพจน์ คง
ให้มีรูปเป็นเอกพจน์ตามเดิม เช่น
: วิภายมานาย ปน รตฺติยา วลาหกวิคโม จ