ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๙๔ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙
การใช้ เอก ศัพท์
ที่แปลว่า “หนึ่ง”
เป็นได้ทั้งสังขยา และสัพพนาม มีวิธีใช้
ต่างกัน คือ เอก สังขยา ใช้ในกรณีนับจำนวน เช่น หนึ่งคน สองคน
เป็นต้น เอกสัพพนาม ใช้ในกรณีกำหนดบุคคล สัตว์ สิ่งของ ที่ยัง
ไม่ปรากฏชัด ไม่แน่นอน มีคติดุจ อญฺญตร ศัพท์ ดังกล่าวแล้ว เช่น
: อถ น เอโก ทหรภิกขุ กติวสุสา ตุมเหติ ปุจฉาวา
ฯเปฯ (๑/๓๖)
: เอโก กร สาวตถีวาสี กุลปุตโต สตฺถิ สนฺติเก
ธมฺมก สุตวา สาสเน อุร์ ทตวา ปพฺพชิโต
ลทรูปสมฺปโท ติสฺสตฺเถโร นาม อโหสิ ฯ (๒/๑๔๕)
นอกจากนี้ ยังใช้กรณีที่แยกส่วนย่อย ออกจากส่วนใหญ่ เพื่อ
มิใช่เป็นการนับจำนวน เช่น
กำหนดได้สะดวก
: เอว เทเสนฺตสฺส ปูน ตถาคตสฺส สนฺติเก นิสินนาน
เตส เอโก นิสินฺนโกว นิททาย, เอโก องฺคุลิยา ภูมิ
วิลิขนฺโต นิสีทิ ฯ (๗/๒๕)
อนึ่ง เอกสัพพนาม ถ้าใช้ในกรณีเน้นให้ความนั้นๆ หนักแน่นขึ้น
ท่านใช้ศัพท์นี้ ควบกัน ๒ ศัพท์ เป็น เอเกก แปลว่า แต่ละคนแต่ละ
อย่าง เช่น
: เตาสเทวปุตตา อตฺตโน กุมภ รตนปลุลงเก นิ
สีที่สุ ฯ เหตุที่สาย กุมภาน เอเกกลุ่ม กุมภ สตฺต
สตฺต ทนฺเต มาเปส, เตสุ เอเกโก ปณฺณาสโยชนา