ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๔๔ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙
อนึ่ง ถ้านักศึกษา “เป็น” ในวิชาแปลไทยเป็นมคธในชั้นต้นๆ มา
ดีแล้ว ก็จะสามารถแปลไทยหรือแต่งไทยเป็นมคธในชั้นสูงๆ ได้โดยไม่
ยากนัก เท่าที่สังเกตดูใบตอบของนักเรียนชั้นสูงๆ ที่ตอบในสนามหลวง
มักจะแสดงถึงความไม่ค่อย “เป็น” ในกระบวนการแปลไทยหรือแต่ง
ไทยเป็นมคธนัก ไม่ใช่ผิดศัพท์ ไม่ใช่ผิดประโยค แต่ใช้ศัพท์ผิดบ้าง
วางศัพท์ผิดบ้าง ใช้สำนวนภาษาผิดบ้าง ใช้กาลผิดบ้าง ใช้ลิงค์ วจนะ
วิภัตติผิดบ้าง ใช้นิบาต ใช้ปัจจัย เช่น โต ตฺตา ตา ปัจจัยผิดบ้าง ซึ่ง
เป็นเรื่องไม่น่าให้ผิด แต่ก็ทำผิดไป อันแสดงถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจ เป็น
ส่วนสําคัญ ที่ผิดเพราะเผลอก็มีบ้าง ผิดเพราะเข้าใจผิดก็มีบ้าง แต่ผิด
เพราะไม่รู้เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายว่าในชั้นสูงๆ ไม่น่าจะ
ผิดเช่นนั้น แม้บางครั้งจะไม่ผิดรุนแรง แต่ก็เสียภูมิมากอยู่ อาจทำให้
เสียคะแนนโดยใช่เหตุ
ในบทที่ว่าด้วยการเรียงประโยคอธิบายความบทนี้ จึงจักแสดง
ข้อปลีกย่อยที่สังเกตเห็นได้จาก “ผิด” ที่นักศึกษา “ทำ” ไว้เพื่อเป็นแนวทาง
ให้เป็น “ถูก” ต่อไปในกาลข้างหน้า โดยจะเน้นเฉพาะอย่างเฉพาะเรื่อง
ไป คือ
หลักการแก้ค่า
ในประโยคแก้อรรถที่แก้ข้อความเพียงคำเดียว เรียกว่า “แก้
คำ” บทตั้งนั้น นำมาจากคาถาข้างต้นบ้าง จากข้อความข้างต้นที่กล่าว
ไว้ก่อนบ้าง จากปกรณ์อื่นๆ ที่กำลังอธิบายขยายความถึงในตอนนั้น
หรือเรื่องนั้นๆ บ้าง ในประโยคเช่นนี้ มีหลักการเรียงดังนี้