คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ วิชาแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ หน้า 350
หน้าที่ 350 / 374

สรุปเนื้อหา

คู่มือการแปลไทยเป็นมคธนี้เน้นการเข้าใจหลักการแต่งประโยคที่มีการซ้อนกันและวิธีการวางคำ เพื่อให้ประโยคหนึ่ง ๆ มีความชัดเจนและไม่สับสน ในกรณีที่มีคำซ้อนกันในประโยค เราต้องรู้จักวางตำแหน่งให้ถูกต้อง โดยการใช้งานคำที่ถูกต้องในแต่ละประโยค และการบ่งบอกถึงกาลในประโยค ย ต เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่นำเสนอ อาทิ การใช้คำในประโยคที่บ่งถึงความเป็นปัจจุบัน แม้จะเป็นการอ้างถึงอดีตหรืออนาคต อีกทั้งยังช่วยให้ประโยคมีความกระชับและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยถือเป็นแนวทางที่สำคัญในการปรุงประโยค ย ต

หัวข้อประเด็น

- การใช้ประโยคซ้อนกัน
- การวางคำในประโยค
- กาลของกริยาในประโยค
- การสร้างความชัดเจนในประโยค
- หลักการแปลมคธ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๓๓๔ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ ๓. กรณีที่แต่งประโยค ย ซ้อนกันในประโยคเดียว คือ มี ย สองตัว ในประโยค ต ก็จะต้องมี ๓ ซ้อนกันสองตัว เพื่อให้รับกับ ย และต้องวางศัพท์ให้ถูกตำแหน่ง กล่าวคือ ย ตัวแรกกับ ย ตัวหลัง หมายถึงอะไร และวางอยู่ในตำแหน่งใด ๆ ตัวแรกก็ต้องวางไว้ใน ตำแหน่ง ย ตัวแรก และ ต ตัวหลังก็ต้องวางไว้ในตำแหน่ง ย ตัวหลัง เพื่อให้รับกันโดยไม่สับสน หากวางสลับที่กัน อาจทำให้สับสน ไม่สามารถ รู้ได้ว่า ย ต ตัวไหนจับคู่กัน ในกรณีนี้มีตัวอย่างเช่น : อนุนปานเภสัชเชส โย ย์ อิจฺฉติ, ตสฺส ต์ ยกิจฉิตเมว สมฺปชฺชติ ๆ ๔. ในกรณีที่ใช้ประโยค ย ต บ่งถึงกาล คือ ยทา ตทา กิริยาคุม พากย์ในประโยค ยทา นิยมประกอบเป็นวิภัตติหมวดวัตตมานา แสดง ความเป็นปัจจุบัน แม้เนื้อความตอนนั้นจะระบุว่าเป็นอดีตหรืออนาคต ก็ตาม เพราะเนื้อความในประโยค ยทา นั้นเกิดขึ้นหรือเป็นไปพร้อม กับเนื้อความในประโยค ตทา ที่ตนขยาย แต่ในประโยค ตทา กิริยา จะเป็นกาลอะไร ย่อมแล้วแต่เนื้อความเป็นสำคัญ เช่น : ยทา หิ ภควา มหาปรินิพพานมญจเก นิปชชติ, ตทา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา อิมสฺม จกฺกวาเส สนุนิปติวา ทิพพมาลาทีห์ ภควันต์ ปูเชส ฯ (มงคล. ๑/๔๘) ๕. เนื่องจากประโยค ย ต มีประโยชน์สำหรับขยายเนื้อความ ให้มากขึ้นก็ได้ ย่อเนื้อความให้สั้นกระทัดรัดลงก็ได้และทําเนื้อความที่ สับสนให้ชัดเจนขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นจึงสามารถปรุงประโยค ย ต ได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More