คู่มือการตัดและต่อประโยคภาษาไทย คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ วิชาแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ หน้า 328
หน้าที่ 328 / 374

สรุปเนื้อหา

การตัดและต่อประโยคในภาษาไทยนั้นมีเทคนิคที่สำคัญ เช่น การตัดประโยคให้กระชับ และการใช้สรรพนามแทนคำที่ซ้ำซ้อน ควรพิจารณาอย่างละเอียดว่าเมื่อใดควรตัดและต่อประโยคเพื่อให้ข้อความมีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจน การเลือกใช้ศัพท์โครงสร้างที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความชัดเจนและสละสลวยของภาษา ควรคำนึงถึงการมีใจความที่สมบูรณ์หลังการตัดต่อ และสามารถเชื่อมโยงได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้สามารถศึกษาจากตัวอย่างที่ให้ไว้เพื่อปรับใช้ในงานเขียนของตนเองได้.

หัวข้อประเด็น

-แนวทางการตัดประโยค
-การต่อประโยคในภาษาไทย
-การใช้สรรพนามแทน
-ความสัมพันธ์ของประโยค
-หลักการเขียนภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๓๑๒ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ ให้เหลือเพียงศัพท์เดียวในประโยคที่ไม่เต็ม ๓. ข้อความภาษาไทยที่มีความยาว แม้จะมีความสัมพันธ์เนื่อง กัน ก็นิยมตัดตอนประโยคให้สั้นหรือเล็กลง โดยมีกิริยาคุมพากย์เป็น ระยะๆ และไม่ต้องขึ้นบทประธานเข้ามาใหม่ ใช้สรรพนามแทนหรือเว้น ไว้ในฐานที่เข้าใจก็ได้ แต่ควรพิจารณาให้ดีว่า จะตัดข้อความที่ตรงไหน จึงจะเหมาะสม มิใช่ซอยประโยคจนสั้นทุกประโยคไป ๔. ก่อนจะตัดและต่อ ต้องพิจารณาแยกแยะประโยคให้ถี่ถ้วนก่อน โดยเฉพาะพึงตีความออกมาให้เห็นแจ่มแจ้งเสียก่อน โดยใช้หลักวิชาทาง ภาษาไทยที่กล่าวไว้แล้ว ในเรื่องประโยคภาษาไทย ว่าประโยคจบแค่ ไหน ความตอนใดเข้ากับความตอนใด หรือขยายความตอนใด ควร เป็นเอกรรถประโยค หรืออเนกรรถประโยค หรือสังกรประโยค ๕. การต่อประโยค นิยมเชื่อมความให้เนื่องกันด้วยศัพท์นิทธารณะ นิทธารณียะบ้าง ด้วยนิบาตบ้าง เพื่อให้เกิดความสละสลวยทางภาษา อนึ่ง ในเรื่องการตัดความนี้ มีข้อที่ต้องคำนึงอยู่คือ เนื้อ ความ ที่เหลือจากที่ตัดแล้วจะต้องมีใจความสมบูรณ์ และจะต้องต่อกับความ อื่นในประโยคเดียวกัน หรือระหว่างประโยคได้สนิทและเนื่องกันด้วย มิใช่ ตัดและต่อแล้วมีใจความไม่ต่อเนื่องกัน เข้ากันไม่ได้กับความอื่นและ ประโยคอื่น จึงต้องใช้วิจารณญาณและความฉลาดในภาษาเป็นอย่างมาก จึงจะสามารถตัดต่อความอย่างนี้ได้ เพื่อความเข้าใจชัดยิ่งขึ้น ขอให้ ศึกษาจากตัวอย่างต่อไปนี้ ไทย : ความดำรงทรงตัวอยู่ได้ของพระบวรพุทธศาสนาก็ดี
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More