หลักการแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ ๓๓๕ คู่มือวิชาแปลไทยเป็นมคธ ป.ธ.๔-๙ วิชาแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ หน้า 351
หน้าที่ 351 / 374

สรุปเนื้อหา

การเขียนโดยใช้ภาษาไทยในรูปแบบมคธมีความพิถีพิถัน โดยใช้ประโยค ย ต เมื่อจำเป็นเพื่อเน้นเนื้อหาเท่านั้น และหลีกเลี่ยงการใช้ซ้ำซ้อน เพื่อให้ความหมายชัดเจนและสละสลวย ตัวอย่างการแต่งประโยคมคธจะช่วยให้ทราบว่าควรใช้เฉพาะกรณีที่ต้องการเน้นเท่านั้น การใช้ประโยคที่กระชับและได้ความหมายที่ดีจะช่วยให้การสื่อสารชัดเจนมากขึ้น

หัวข้อประเด็น

-หลักการแต่งภาษาไทย
-การใช้ประโยคมคธ
-ความหมายและความชัดเจนในภาษา
-การเน้นประโยคในงานเขียน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หลักการแต่งไทยเป็นมคธ ป.ธ.๙ ๓๓๕ เกือบจะทุกตอนของเนื้อความ แต่ความนิยมทางภาษามคธที่ท่านแต่ง ไว้ในปกรณ์ต่างๆ สามารถเห็นเป็นข้อสังเกตได้ว่า ท่านพิถีพิถันในการ ใช้ประโยค ย ต มาก จะใช้ก็ต่อเมื่อจำเป็นและต้องการจะเน้นเนื้อหา ตอนนั้นเท่านั้น ท่านไม่นิยมแต่งประโยค ย ต พร่ำเพรื่อซ้ำซ้อนจน ดูเพื่อไป แม้ว่าเนื้อความตอนนั้น จะสามารถแต่งเป็นประโยค ย ต ได้ก็ตาม เมื่อหลีกเลี่ยงได้ท่านก็หลีกเลี่ยง แต่งให้เป็นวิเสสนะธรรมดาเสีย จึงทำให้สำนวนมคธที่ท่านแต่งไว้สละสลวย ไม่รุงรังด้วย ย ต และ ประโยคก็กระทัดรัด ไม่ยืดยาวโดยใช่เหตุ เพราะฉะนั้นจึงควรยึดถือ แบบของท่านไว้เป็นเกณฑ์ ไม่ควรแต่งประโยค ย ต โดยไม่จำเป็น เช่น ไทย : ภิกษุผู้มีศีลรูปนั้นกำลังเดินมา ฯ มคธ : โย ภิกขุ สีลวา โหติ, โส อาคาฉติ ๆ (ไม่จำเป็น) เป็น : โส สีลวา ภิกขุ อาคจฺฉติ ฯ (เท่านี้ก็พอแล้ว) แต่ในกรณีที่ต้องการจะเน้นความ แม้ประโยคจะสั้น ก็สามารถ แต่งได้ เช่น ไทย : ภิกษุผู้มีศีล ย่อมสมควรได้รับการยกย่องนับถือ ฯ มคธ : โย ภิกขุ สีลวา โหติ, โส สมมานน์ อรหติ ฯ (ต้องการเน้นเฉพาะภิกษุผู้มีศีลเท่านั้น) หรือ : สีลวา ภิกขุ สมมานน์ อรหติ ฯ (แค่นี้ก็ใช้ได้ แต่ได้ความหมายว่า ภิกษุปกติทั่วๆ ไป) ในกรณีที่แต่งประโยค ย ต ซ้ำซ้อนสับสนและเข้าใจยาก มี
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More