วิชาธรรมแปล ภาค ๑ ตอน ๓ วิสุทธิมรรค ภาค 3 ตอน 1 หน้า 5
หน้าที่ 5 / 405

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับวิชาธรรม แสดงให้เห็นถึงการแยกแยะระหว่างธรรมชาติของปัญญา สัญญา และวิญญาณ โดยเน้นบทบาทที่พระผู้พระภาคเจ้าได้ทรงทำและยกตัวอย่างว่า แม้กิจจะยากแต่ก็ยังสามารถทำได้ ร่วมกับการพูดถึงคำนิยามของปัญญาและสิ่งที่ควรทำงานผ่าน ทั้งการแยกแยะสัญญาและการรับรู้ความจริง ส่งผลให้เกิดภาพรวมที่ชัดเจนในแนวคิดของผู้ปฏิบัติธรรม โดยมีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบจนสามารถเห็นลักษณะของปัญญาในกระบวนการ

หัวข้อประเด็น

-ธรรมชาติของปัญญา
-การแยกแยะสัญญา
-บทบาทของพระผู้พระภาคเจ้า
-ความยากง่ายในการทำกิจ
-ลักษณะของสมาธิในการศึกษาธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค- วิชาธรรมแปล ภาค ๑ ตอน ๓ - หน้า ๕ เป็นธรรมชาติที่ละเอียดเห็นได้จาก เพราะมีความต่างที่จะพึงแยกออก ไม่ได้ว่า นี้สัญญา นีสัญญา นีปีญญา เพราะเหตุนี้ ท่านนับเสน จึงถวายพระพร (พระเจ้ามินทร์) ว่า "ฤกษ์มหาพิธี กิจที่ได้มาให้ พระผู้พระภาคเจ้าได้ทรงทำแล้ว" พระเจ้ามินทร์รัสสกล่าวว่า "ท่าน นาคเสนผู้เจริญ ก็กิจที่ทำได้ยาก พระผู้พระภาคเจ้าได้ทรง ทำแล้ว" ท่านนาคเสนก็ตวาวิษสนาว่า "ฤกษ์มหาพิธิ์ กิจอันทำได้ ยากที่พระผู้พระภาคเจ้าได้ทรงทำ ก็ต้องรอการกำหนด (แยก) ธรรมทั้งหลายอันไม่มีรูป คือจิตและเจตสิกเหล่านี้เป็นไปในอารมณ์ เดียวกัน อยู่ว่า นี้สัญญา นี้สัญญา นี้สัญญา ดังนี้ [๓. อะไรเป็นลักษณะ ฯลฯ ของปัญญา] ส่วนในปัญหากรรม (ข้อ ๓) นี้ว่า "อะไรเป็นลักษณะเป็นรูป เป็นปัจจุบัน และเป็นปัจจุบันของปัญญานั้น" มีวิตามว่า ปัญญา มีกระตรัสสภาวะแห่งธรรมเป็นลักษณะ มอันอัดเสียดซึ่งมีความมึือ โมหะอันบังสภาวะแห่งธรรมทั้งหลายเป็นรส (คือเป็นกิน) มีความหาย หลงเป็นปัจจุบัน (คือเป็นเครื่องปรากฏหรือเป็นผล) ส่วนสมาธิ เป็นปัจจุบัน (คือเหตุใด) ของปัญญานั้น โดยพระว่าว่า "มาฤติ ยตาก็ สานาติ ปุลสูตร ผู้จิตเป็นสมาธิอ่อนรู้เห็นตามเป็นจริง" ค. @. มหากุฏิท่านช่างคิดเปรียบเทียบว่า สัญญาและวิญญาณ แยกจากปัญญาโดย เด็ดขาด ก็เหมือนสุขแยกจากโลภเดือดแยกได้ ส่วนปัญญาแยกจากสัญญาและ วิญญาณโดยเด็ดขาดเหมือนปิติแยกจากสุขโดยเด็ดขาดไม่ได้ ๒. อง. ทศก. ๒๔/๓
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More