ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาภิรมรรแปล ภาค ๓ ตอน ๑ - หน้าที่ ২৩
ไฟเป็นต้น ? because ในรูป ทั่วยมมีความเป็นไปที่แยกกันไม่ออก ใคร ก็กล่าวไม่ไดว่่า สิ่งนี้เป็นคุณแก่สิ่งนี้ สิ่งนี้เป็นคุณแก่สิ่งนี้
แม้อาจารย์พวกนั้นจะพิพากล่าวต่อไปอีกว่า "ท่านทั้งหลายประสงค์เอากิจ (คือหน้าที่) เช่นการทรงไว้ของธาตุดินเป็นต้นได้ ก็เพราะความที่ธาตุรูป (คือธาตุ) นั้น ๆ มีมากในสสาระ (คือองคออะวะ ? ) นั้น ๆ ฉันใด ข้อที่ว่า รูปเป็นต้นเป็นคุณแก่ธาตุไฟเป็นอาทิตย์ นี่น่าจะประสงค์เอาได้ เพราะรูเป็นต้นปรากฏเป็นจำนวนมากในสสาระที่ยังด้วยธาตุไฟ (คือธา) เป็นอาทิตย์ ฉันนั้น
อาจารย์เหล่านั้น เราพึงกล่าว (ค้าน) ว่า "ข้าวเจ้าทั้งหลายก็จะพิสูจน์ประสงค์ หากว่าคำใน (เมล็ด) ฝ่ายที่น้อยด้วยดินจะพิสูจน์เป็นกลิ่นยิ่ง (คือคุณ) ว่ากลิ่นของดอกที่อยู่ด้วยน้ำ และสีของน้ำเย็นจะพิงจาก (ใส) กว่่าสีของน้ำร้อนที่ยังด้วยไฟบ้างดก็ แต่เพราะทั้ง ๒ อย่างนั้นไม่มี เพราะเหตุนี้นั้น ท่านทั้งหลายพิเลาการคิดกำนดความแปลกกันแห่งธาตุอันเป็นที่อาศัยของสสารูปมีความเป็นต้นเหล่านั้นเสียดัง ควรถือเอาดีว่าน "รูปรสเป็นต้นแห่งธาตุทั้งหลายแม้ในกลอมาเดียวกัน ไม่มี (อะไร) วิทยา (ว่ากัน) ก็ยังไม่เหมือนกัน ฉันใด ประสาททั้งหลาย ก็จังประสาทเป็นต้น แม้เหตุแห่งความวิสัย (ว่ากัน) อย่างอื่นไม่มี (มัน) ก็ไม่เหมือนกัน ฉันนั้น"
๓. ปนายก ปฏูในมหาวิทยาลัยเป็น ปนาย ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องสัมพันธ์เป็นบุพกาลจิรกใน คฤหทพ์ ประกอบความว่า "พิเลก... เสีย แล้วอีอ... เกิด" ดูะเข้าก็ว่า ปนายอ ซึ่งต้องแยกเป็นประโยคหนึ่งประเด็นอยู่
๒. ตอนเกี๊ยะทะและค่ำนี้นั้น คือเอาความยากเต็มที่ พิจารณา ดูให้ดีด