ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิถีธรรมครูแนวปฏิบัติ ภาค ๑ ตอนที่ ๑ หน้าที่ 401
นี้เป็นความลึกโดยปฏิวัติในปฏิรูปสมุทรธรรมนี้
[โดยดังนั้น]
ประกาศหนึ่ง เหตุในปฏิรูปสมุทรธรรมนี้ มีนัยแห่งอรรถอยู่
๕ คือ เอกัตตนัย(นัยแห่งอรรถเป็นอันเดียว) นาโคตนัย(นัยแห่งอรรถต่างๆกัน) อภัยปาถนัย(นัยแห่งอรรถว่าไม่มีความแววหวา) เอวิติตนัย(นัยแห่งอรรถว่าเป็นธรรมคออย่างนั้นเอง)
เหตุนี้น ภาวิจักนั้น บัญติจึงควรทราบแก้โดยความดังนี้อีกตามควร
เอกัตตนัย
ใน ๔ นั้นนั้น ความไม่ขาดสายแห่งความสัมพันธ์นี้คือ สังขารมี
เพราะปัจจัยคืออวิชา วิญญาณมีเพราะปัจจัยคือสังขารเป็นต้น จุดวาม
ที่พึงถึงความเป็นต้นไม่เพราะความมีขึ้นแห่งอธิบายจึงไม่มีหนอเป็น
ดัง (สืบต่อกันมา) นะนั้น ชื่อเอกัตตนัย ซึ่งในนี้นี้ก็มีพระโอวาทร
เห็นโดยถูกต้อง ย่อมจะอธิษฐานทีถูกต้อง เพราะยังรู้ความไม่ขาดสาย
แห่งความสัมพันธ์อันเป็นไปอยู่โดยความสัมพันธ์แห่งเหตุและผล เมื่อ
เห็นผิดไป ย่อมจะยินมั่นสัสสถิกิ เพราะถือเอาความไม่ขาดสายแห่ง
ความสัมพันธ์อันเป็นไปอยู่โดยความสัมพันธ์กันแห่งเหตุและผลว่าเป็นอ้อน
เดียวไปเสีย'
* ฟังทางอยู่หน่อย อำนาหฏิทิแล้วพอได้ความว่า เหตุุบผลต่างกันไม่ใช่น
เดียวกัน แต่อ่อนึงอธิษฐาน พวกสัสสทิกิ ไม่แยกเหตุและผล คือแยกเหตุและผล
คือเป็น
เอกัตตนะ (หรือที่เรียกกันว่าเอกภาพ) โดยความก็คือ ก็ว่ามีอัตตาที่ยแน่
หรือว่าจัญญาไม่สุขอ่อนเดียวกันเกิดไป ไม่มีชั่วคราวผล
ส่วนเอกัตตนิที่ชอบนั้นนมัญความว่า เป็นอันเดียวกันโดยอ่น้องด้วยสันติอัน
เดียวกันมาไม่จากสาย เหมือนต้นไม้กับแมวเพ็ช จนเป็นต้นใหญ่วัดสันติอันเดียวไม่
ขาดคะนั่น