ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค = วิชาธรรมะแปล ภาค 3 ตอน 1 หน้าที่ 54
ด้วยอำนาจแห่งที่มาที่เป็นอาทิ องค์เมือความแปลกกันแห่งสัมปุฏ-ธรรมทั้งหลายไม่มี ก็ผงธราบว่า จิปรา วิญญาณเป็นธรรมชาติไม่มี (อุตสาหะ) กำลังชักจูง ดูงามหน้าในพื้นที่เป็นต้น (ส่วน) กุตส วิญญาณมี (อุตสาหะ) กำลังชักจูง ดูหน้า (ของคนที่ส่องดูงามหน้า)
[คำบววจุกจิกมาก]
ส่วนว่าอุตสาหะวิญญาณ เป็นเหตุเหตุอย่างเดียวเท่านั้น องค์ส วิญญาณนั้นมี ๗ คือ จำแนกวิญญาณ โสต----มาน----วิเคราะห์----กายวิญญาณ มโนวิญญาณทำหน้าที่สัมปฏิญาณ (และ) มโนวิญญาณชนิดปฏิญญฐานนหน้าที่สนิทระเป็นต้น องค์อุตสาหะ นั้น โดยความแปลกกันมีลักษณะเป็นต้น พึงทราบโดยในเหตุุ-วิญญาณฝ่ายอุตสาหะนั้นเกิด เป็นแต่กุศลวิญญาณทั้งหลาย เป็นอธิษฐาน- รวมถึงอธิษฐานตามความสิ้นเชิง อุตสาหะวิญญาณทั้งหลาย ก็เป็นอธิษฐานและอนุญาตมัชฌิมตณฑ์ตรมมสิเทิน องค์ กุศลวิญญาณ
อ.๒. อามนามก มหากุกว่า ที่นามใช้ทิพพะนั่น เพราะมี ๒ คือ อามน and ปัจจัย อามนะ (ในที่นี้แปลว่า ที่มุ) ท่านให้บันทึกนะว่า โดยมุตของอาจารย์กล่าวมาว่า วิญญาณของกุศลที่เป็นอธิษฐาน เป็นสิ่งรบ มันก็เป็นสิ่งรบ เหมือนอย่างว่า เมื่อมาจนคนส่องไหว เวลาหน้าในเว่นมันก็ไหวด้วย (ถ้าหน้าคนส่องไม่ไหว เวลาก็ไม่ไหว) นั่นนี้เป็นสิ่งรบและสิ่งรบโดยมิลา (คือว่าแล้วแต่มันจะมาแตกกุศลชนิดไหน)
โดยป้องกันนั้นว่า โดยมิติดอาจารย์เหล่านั้นว่า วิญญาณที่เกิดเพราะปัจจัยมีกรรมเป็นต้นที่มีกำลัง ก็เป็นสิ่งรบ ที่เกิดเพราะปัจจัยที่กำลังอ่อน ก็เป็นสิ่งรบ โดยสัมปุฏธรรมแล้ว วิญญาณก็ไม่มีอะไรแปลกจากกุศล เป็นแต่ว่าไม่มีกำลังชักจูง คือไม่มีความสามารถในอันจะทวีวามกอะไรให้เกิด แม้ในสันดานของสัตว์ที่ยังมีกิเลส แต่กุศลก็เกิดเช่นนั้น เหมือนแกับหน้าคน