ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิถีธรรมกรรมเปล่าก คตอน ๑ หน้า ที่ 393
(ด้วยกัน) ต้นหาอันมีเพราะเวทนา เป็นอุปัชฌาย์ เกิดแต่ปุจฉาสัง
อุปทานอันมีเพราะต้นหา เป็นอุปัชฌาย์ เกิดแต่ทุจิตัส
ภาพนี้มีเพราะอุปาทาน เป็นปุจฉาสังและทุจิตัสทั้งสอง เกิดแต่ทุจิตัส
ชาติอันมีเพราะภาพเป็นปุจฉาสังเกิดแต่ทุจิตัส
รามระอันมีเพราะชาติ เป็นปุจฉาสัง เกิดแต่ปุจฉาสัง (ด้วยกัน)
ภวัจฉนั้น บันติทิพงตราบโดย (วางคอนไหน) เกิดแต่จะ
(ไหม) ตามควร โดยนัยดังกล่าวว่าจะนี้ เป็นอันดับแรก
โดยกิจ
อีกข้อหนึ่ง เหตุใจ ในองค์ใดเหล่านี้ อวิชชา ยอมยังสัตว์ทั้งหลาย
ให้กลุ่มหลงในอัตตา (คืออารมณ์?) ทั้งหลาย และเป็นปัจจัยเพื่อความ
ปรากฏนี้แห่งสังารทั้งหลายด้วย นัยเดียวกันนั้น สังวรณ์ก็ปรุงแต่ง
สงขตรธรรมและเป็นปัจจัยแห่งจิตญาณด้วย ฝ่ายจิตญาณก็รู้รัฐดู
(คืออารมณ์) และเป็นปัจจัยแห่งนามรูปด้วย ข้างนามรูปก็กำจุดันกัน
และกัน และเป็นปัจจัยแห่งสฬายะด้วย สฬายะตอนเล่าก็เป็นไปใน
วิสัยของตน ๆ มีรูปเป็นต้น และเป็นปัจจัยแห่งสสารด้วย ผลสสาร
เล่าก็สืบสอรมนีและเป็นปัจจัยแห่งวานทนด้วย เวทน่าก็เสวยรส
อารมณ์และเป็นปัจจัยแห่งตนหาด้วย ต้นหาเล่าก็ทำกุฎบัณฑิตในธรรม
เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนดดีนดี และเป็นปัจจัยแห่งอุปาทานด้วย
อุปาทานเล่าก็อล่ามในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความเมื่อมมัน และเป็นปัจจัย
'เพราะภาพแยกเป็น ๒ คือกรรมภาพ อุปปัชฌภาพ กรรมภาพเป็นสมุทัย อุปปัชฌภาพ เป็นทุกข์ จึงว่าเป็นทั้งสอง