ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปะโยค๙ - วิทยาธรรมเปก ๓ ตอนที่ ๑๗๑
เคมด้วย ได้ท้อกษัยใหม่อัณฑรมสร้างขึ้นบ้าง ไม่ได้บ้าง เป็นไปด้วย
ปัจจัยทั้งหลายมีอารมณ์เป็นต้นนั้นด้วย จุดคนหนุ่มเชื่อซึ่งผูกพัน
ไม่ที่ฝืนใจไหวับคงไว้ซึ่งนั้นแลอง
ก็เลย ในวิญญาณที่เป็นไว้ใน วิญญาณคงก่อนเรียกว่าจะดูวิญญาณ
เพราะเคลื่อนไป คงหลังเรียกว่าภูมิสธิวิญญาณ เพราะสืบต่อมาแต่
เบื้องต้นแห่งทางภูมิ อันว่าวิญญาณนี้นั้น บันฑิตพิพากษาเด็จว่า
มันมา ณ ภพนี้จากก่อนหนาได้ อีกทั้งวันเหตุ มีกรรรม สัจจาร
ต้นหา ผู้ก็ถัดและวิญญาณเป็นต้นจากกพ่อน้นี้เสีย มันก็ปรากฏขึ้นหาไม่ได้
【คาถาสังเขปนี้นะจะดูปฏิปูฏนี้】
ธรรมทั้งหลายมีเสียงสะท้อนเป็นต้น พึงเป็นนี้นะ
ในอ้อได้ อย่าง เพราะความเนื่องกันในสันดาน
(คืออรัติปราย) ความเป็นอันเดียวกันจึงไม่มี ทั้ง
๑. อุตสาหมาน มหาภูรณะแนะให้เปล่า ว่า ได้ และว่าที่ได้คำอช์ใหม่ หมาย
ความว่าเกิดในวิญญาณ โวภาพ ซึ่งมีทัศนคติให้เป็นที่อาศัย ไม่ได้อาศัย หมายความ
ว่าเกิดในจินวิภารภาพ ซึ่งไม่มีรีบ จังไมมีทัศนวิภารภาพเป็นที่ตั้ง
๒ มหาภูรณเทียบไว้ว่า อารมณ์มีกรรมเป็นต้นนี้ที่ลูกพันอัตภาพในกพ่อน เปรียบ
เหมือนเชือกที่ผูกมาไม่ได้ผีนี้ วิญญาณเปรียบเหมือนคน ด้นนารูบรมเหมือน
ความปรารถนาข่มขมองแห่งคนผู้นั้น สงบธรรดเปรียบเหมือนความพยายามข่ม
คนผู้นั้นเมื่อข้ามไปยังอยู่ที่ฝั่งนอก ได้อะไร ๆ ที่ acost อยู่ด้านนอกมันก็ไม่ฝืนองค์มันไม่ได้บ้าง ก็
คนยืนอยู่คืนคืนได้ตามกำลังของตนแท้ ฉันใด แม้วิญญาณก็ฉันนั้น ได้อาศัย
กล่าวว่าหายวิญญาณที่ดีที่สุดอยู่ในอัตภาพในภพอื่น (ที่เป็นปัญหาโวภาพ) บ้าง ไม่ได้อาศัย
นั้น (ในจินวิภารภาพ) บ้าง คังก็เป็นไปได้ด้วยกรรมอัน สมบูรณ์สัมปุดอารมณ์ทั้งหลาย
เท่านั้นเป็นแท้
๓. ที่ว่าริญญาณนี้ได้มา ณ ภพนี้ ... มหาภูรณาท่านว่า "ก็เพราะมันเกิดขึ้นในภพนี้
นี้เอง"