ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิจารณ์ธรรมเปล่าภาค ๓ ตอนที่ ๑๙๘
เราคือใดแล" เป็นคำว่า คำแก้พึงมีว่า "หาไม่ได้ เพราะ
เพียงแต่ความสิ้น หมายถึงพระอรหัตก็ได้ ด้วยพระอรหัตนั้นท่านก็
แสดงไว้โดยขั้นต่ำว่า โยน โจน อาวุโส รากษสโย ปีเป็นต้น ด้วย
เหมือนกัน" ยิ่งมี (ผิด) อะไร ๆ ต่อโบกิ คือ (การกล่าวเพียง
แต่ว่าความสิ้นก็เป็นนิพพานนั้นไม่ชอบ) เพราะโทษคือพระนิพพาน
กลายเป็นธรรมชาติมีชั่ววาลอันสั้นเป็นต้นไป จริงอยู่ เมื่อเป็นอย่าง
นั้น พระนิพพานก็ยังความเป็นธรรมชาติมีชั่ววาลอันสั้น ความ
เป็นธรรมชาติมีลักษณะแห่งสังขารธรรม และความเป็นธรรมชาติที่จะ
พึงบรรลุได้โดยไม่แยแสถึงสัมมาวายามะไปเสียด้วย องิ์ เพราะ
ความเป็นธรรมชาติมีลักษณะแห่งสังขารธรรมมันแส พระนิพพานก็
(เลย) ถึงยังวะอคเป็นธรรมชาตินับเข้าไปในสังขารธรรมไป เพราะ
เป็นธรรมชาตินับเข้าไปในสังขารธรรม ก็ (เลย) ถึงยังวะอคเป็น
ธรรมชาติดูก็ไม่มีรำคะเป็นต้นเผาเอาได้ เพราะเป็นธรรมชาติกดเผา
ก็ (เลย) ถึงยังวะอคเป็นทุก ๆ ไปเสียด้วย"
หากมีคำยังอีกว่า "โทษไม่ม เพราะความเป็นไป (แห่ง
๑. ส. สพ. ๑๙/๑๓๑
๒. อธิบายตามปกติหมาๆกว่าพระรหัสนั้นเกิดขึ้นในที่สุดแห่งความสิ้นทุก ส่วนน
พระนิพพานเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ ซึ่งบูคคลละพึงถึงว่า ไม่ใช่สิ่งที่จะพึงทำให้เกิดได้
พระสังให้พัทธ์ ราอญโ โทษกูโ โมหญโ อย่างเดียวกัน แต่มความหมายต่างกัน คือหมายถึงพระอรหัต แปลว่าความสิ้นรา โทษ โมนะ โมะนะ ถามหมายถึงพระนิพพาน แปลว่าธรรมที่สิ้นรคา โทสะ โมนะ โมนะ เพราะมาถึงพระนิพพาน กิสลดังสิ้น (หรือว่าหน่วยพระนิพพานเป็นอารมณ์ คิสลดังสิ้น) เพราะฉะนั้น ขณะ ถ้าแปลแล้วว่า ความสิ้นก็เป็นนิพพานไม่ใช่ (?)