ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาธรรมวินายภาค ๑ ตอน ๑ หน้า 3
เหลือง เป็นต้นด้วย ทำให้ถึงความเข้าใจลอดซึ้ง (ใคร) ลักษณะด้วย
แต่ไม่อาจส่งให้ถึงความเกิดปรากฏขึ้นแห่งธรรมได้ ส่วนปัญญาอรรมณ์
และทำให้ถึงความเข้าใจตลอดซึ้ง (ใคร) ลักษณะตามที่กล่าวแล้ว
ด้วย ส่งให้ถึงความเกิดปรากฏขึ้นแห่งธรรมได้ด้วย อุปมาเหมือน
อย่างว่า เมื่อคน ๑ คน คือ คนหนึ่งเป็นนการยังไม่เลื่อมใส คนหนึ่ง
เป็นบรรดาชาวบ้าน คนหนึ่งเป็นหฤทัย มองดูดวงหาปนะทะที่ตั้งไว้
บนเป็น (กองเงิน) ของหฤทัย ของร่างกายไม่เลื่อมใสก็ดีหวังตาม
แปลก ๆ ยาว สั้น สีเหลี่ยม และกลม แห่งหาปนะทะทั้งหลายเท่านั้น
หาไม่ว่า สิ่งนี้เขาสมมติว่าเป็นแก้ว เป็นเครื่อง (ซื้อหา) อุปโภค
และบริโภคแห่งมนุษย์ทั้งหลายได้ บรรดาชาวบ้านรู้ความสดใสแปลก ๆ
เป็นต้นด้วยว่าฉันเป็นสมมติว่ามันเป็นแก้ว เป็นเครื่อง (ซื้อหา)
อุปโภคและบริโภคแห่งมนุษย์ทั้งหลายได้ด้วย แต่ไม่รู้ตัวยกยก (อย่าง)
นั่นว่า หาปนะนี้แห่งนี้กาหปนะนี้ปลอม กาหปนะนี้ (ปน) มีเงินจริง
ครึ่งหนึ่ง เป็นต้น หรือหฤทัยรู้ประกั้นว่ามีทุกอย่าง เมื่อรู้แล้ว
- มหาภูติตั้งปัญหา วิญญาณ ทำให้ถึง (ลักษณะปฏิรู) ความเข้าใดตลอดซึ้งใครลักษณะได้
อย่างไร? แล้วแก้ว "เข้าใจได้ตามทางที่บูชาบูชา" อธิบายมา เมื่ออิProceedงานปัญญานั้นมี
ใครลักษณะเป็นอารมณ์รู้แจ้งแทงตลอดใครใครนั้นไปหลาย ๆ วาระเข้า วิบัปน้อมมิได้แม้ด้วย
จิตที่เป็นญาณวิบูต (คืออภิญญา) ด้วยอารมณ์ความเคยชินด้วยชำนาญ ดังเช่นสายยพระ
คัมภีร์ที่ชำนาญ ว่าไปได้กล่อ (โดยไม่รู้ความก็ได้) และว่าทำปฏิรูว ในข้ออันก็หมายเพียง
ว่า ทำใดลักษณะเป็นอารมณ์เท่านั้น มิใรู้แจ้งแทงตลอด (ด้วยปัญญา)
อธิบายของพระภิจกาณนี้ กระท่อนถึงไหวทรที่เราพูดกันอยู่ คือเราคุยกันว่าบูชาน
รู้ธรรมเช่นใดลักษณได้เหมือนกัน แต่เป็น "รู้ด้วยสัญญา" ไม่ใช่ด้วยปัญญา" แต่ในภูมินี้
ท่านว่า "รู้ด้วยวิญญาณ" ซึ่งสูงกว่าสัญญา