ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิจิตรกรรมเปล าก ค ตอน ๑ หน้าที่ 319
กับผลเป็นอันเดียวกันหรือคนละอันคลองกันไปอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น การลบล้างโวหารของโลกทั้งปวงก็จะมีขึ้น แต่การลบล้างโวหารของโลกนั้น บันฑิตไม่ปรารถนา เพราะเหตุนี้นั่น ความเป็นอันเดียวกันหรือว่าความต่างกันคือขาด ในสิ่งที่เป็นเหตุและผลอันเนื่องกันในสนคนทั้งหลายนี้ บันฑิตจึงไม่ควรขวนแควะ (คืออย่าใส่ใน) และ
[คำทวง]
ในข้อฉัน (มี) โจทกาจารย์ (ผู้ทวง) กล่าวว่่า "เมื่อเป็นความปรากฎ (เกิดขึ้นแห่งวิญญาณ) โดยมาได้เคลื่อนมา (แต่ภาพก่อน) อย่างนั้น เพราะฉันทั้งหลายที่มีอยู่ในอัตภาพมนุษย์นี้ดับไป และเพราะกรรมที่เป็นโป๊ยแห่งผลไม่ไปในที่เกิดขึ้นแห่งผลนั้น ผลนั้นก็มี (ไป) มีแก่ผู้อื่น และแก่ดวงอื่นหรือ อื่น ๆ เมื่อผู้สวย (ผล) ไม่มี ผลนั้นจะพึ่งมีแก๋ใครล่ะ เพราะเหตุนี้ วีราน (คืออภิญญัตติ) อันนี้ไม่มีดอก"
ในคำทวงนั้น ข้าพเจ้าจะเฉลยต่อไปนี้
[คำถามส่งเบลื่องสนคน]
ผล (แห่งกรรม) ที่มีในสนคน (คือการสืบต่อ
- คือสิ่งที่สืบต่อกันนั้น ชาวโลกเขามาได้คำนึงว่าเป็นอันเดียวกันหรือคนละอัน เขาเรียกไปวามนั้นเป็น เช่น นมสด นมส้ม นมย... เม็ดมะม่วง หน่อมะม่วง ตัน มะม่วง... ในญาณปฏิวัติชั้นนั้น เขาพูดค่านว่า คน which คือนักช่างไม่เท่าไหร่ไปในเป็นเทพบุตร หรือเทพบุตรชำปลูกอุปนิสัยเป็นคนอันอื่น ๆ กับไปได้เป็นเทพบุตร มนุษย์ไปได้เป็นสัตว์... ถ้าเอาสิทธิอันเดียวกันหรือคนละอันเข้ามามี ก็พูดตามโวหารชาวโลกไม่ใช่จิงว่าเป็นการลบล้างโวหารของชาวโลก(?)