การแสดงเหตุและผลในวิชาธรรมประกอบ วิสุทธิมรรค ภาค 3 ตอน 1 หน้า 289
หน้าที่ 289 / 405

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้มีพลิกแง่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลในวิชาธรรมประกอบ อธิบายถึงความนำเสนอเอกการณ์เทคนิค 'อริชาปจุยา สงขา' ว่ามีบทบาทในการแสดงเหตุให้กับผล โดยยกตัวอย่างผลที่เกิดจากหลายเหตุ และการแสดงประโยชน์ที่แท้จริงในแต่ละกรณี พระอาจารย์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีเหตุหลายอย่างในการผลิตผล บทนี้จึงเป็นการชี้แนะที่ทำให้เห็นคุณค่าของการเข้าใจในระบบปฏิบัติการไร้เหตุหรือมีเหตุในการประพฤติธรรมในทางวิญญาณและการสอนพระธรรมผ่านคำว่า 'อริชาปจุยา สงขารา' ในการแสดงเอกเหตุและเอกผล.

หัวข้อประเด็น

-วิชาธรรมประกอบ
-เหตุและผล
-อริชาปจุยา
-การนำเสนอทางวิญญาณ
-ประโยชน์ของเอกเหตุและเอกผล

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - วิชาธรรมประกอป คำ ตอน ๑ หน้าที่ 288 มีเหตุอันเดียว ซึ่งไม่ถูกต้อง หากปัจจัยอื่น ๆ อีกก็มีไช้ เอกการณ์เทคนิค (คำบาลีที่แสดงเหตุไว้อันเดียว) ว่า "อริชาปจุยา สงขา- สังฆรัชหลายมผมเพราะปัจจัยคือวิชา" ก็ไม่เกิดประโยชน์ พระอาจารย์กล่าวต่อไปว่า "(แต่อนที่จริง) เอกการณ์กันนั้นจะไม่เกิด ประโยชน์หามิได้ เพราะอะไร เพราะ เอกผล (เกิด) แต่เอาเหตุไม่มี แม้อเนผล (เกิด) แต่เอเหตุถูกไม่มี เอกผลเล่า (เกิด) แต่เอเหตุถูก ก็ไม่มี แต่อตร (คือประโยชน์) ในการแสดง เอกเหตุอผลผลมืออยู่ จริงอยู่ ผลอย่างเดียว (เกิด) แต่เหตุอันเดียวไม่มีสัคอย่างใน ปัจจอาการนี้ ผลหลายอย่าง (เกิด) แต่เหตุอันเดียวก็ไม่มี ผลอย่างเดียว (เกิด) แต่เหตุหลายอันเล่า ก็ไม่มี แต่ผลหลายอย่าง (เกิด) แต่เหตุ หลายอันนั้นมี จริงอย่างนั้นผลหลายอย่างได้แก่รูป กลิ่น รสเป็นต้น และหน่อ (ไม้) นับเกิดขึ้นแต่เหตุหลายอันกล่าวคือดูกุน พื้น และน้ำปัจจออยู่ แต่การแสดงเหตุอันเดียวและผลอย่างเดียว ที่พระผู้ มีพระภาคเจ้าทรงว่า "อริชาปจุยา สงขารา สงฆารปจุยา วินาญาณ" นั้นใด ในการแสดงเหตุอันเดียวและผลอย่างเดียว อรรถมีอยู่ คือประโยชน์มีอยู่ แท้จริง พระผู้มีกระทำรงแสดง เอกเหตุบ้าง เอกผลบ้างเหมือนกัน โดยควรแก่พระเทสนาวิลาสและแก่ - มหาภูกว่า บท อริชาปจุยา สงขารา สงฆารปจุยา วินญาณิ้น นี้ใด ในการแสดงเหตุอันเดียวและผลอย่างเดียว อรรถมีอยู่ คือประโยชน์มีอยู่ แท้จริง พระผู้มีกระทำรงแสดง เอกเหตุบ้าง เอกผลบ้างเหมือนกัน โดยควรแก่พระเทสนาวิลาสและแก่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น