ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ~ วิภัชกรมารแปล ภาค ๑ ตอน ๑ หน้า ๕๖
【กิริยาวจีญาณ】
ส่วนกิริยาวจีญาณ โดยประเภทแห่งภูมิ มี ๓ คือ กามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร ใน ๓ ภูมินั้น กามาวจรเป็น ๒ คือ ออเหตุคู่ และสหเหตุคู่ ใน ๒ นั้น กามาวจรจีญาณอันเนื่องจากเหตุ มือโลกะเป็นต้น ชื่อเหตุคู่ อเหตุนนั้นก็เป็น ๒ โดยแยกเป็น มโนฐานและโมโนญาณาธุ ในเหตุคู่ ๒ นั้น มโนฐาน มีความเป็นปรกติ (นำหน้า) แห่งจีญาณมิได้วิญญาณเป็นอาทิแล้ว และรู้แจ้งอารมมีรูปเป็นต้น เป็นลักษณะ มีความรู้พึ่งเป็นรส มีความเป็นธรรมชาติ มุ่งหน้าต่ออารมมีรูปเป็นต้นเป็นปฐมภูมิ มีความขาดแคลนว่างเป็นปฐมฐาน มโนฐานนั้นเป็นธรรมชาติเครื่องประกอบ ด้วยอุบาเหตุเท่านั้น
ส่วนโมโนญาณาธุ เป็น ๒ คือ สารนะ (ทั่วไปแก่พระอัสสะ) และบุญนะ (ไม่ทั่วไป คือเฉพาะพระอัสสะ) ใน ๒ นั้น มโนวิญญาณาธุที่เป็นสารนะ ก็คือ อกุฏัญญติสหเหตุคู่ อันรู้แจ้งอารมณ์ ๖ เป็นลักษณะ มีโวญูรู้พนะแก่อารมณ์ในปัญจาวารและโมโนวาร ด้วยอำนาจแห่งกิริยาคือโวญูรู้พนะแก่อารมณ์ในปัญจาวาร ส่วนอาวุธนะทำกิริยาในปัญจาวาร ส่วนอาวุธนะทำในโมโนวาร) เป็นรส มีความเป็นเช่นนั้น (คือเป็นโวญูรู้พนะแก่อาวุธนะ) เป็นปัจจุบัน มีความไปปราศจากเหตุวิบากโมโนวิญญาณธาต (ในโวญูรู้พนกาดา) และวางก คำว่าวาง (ในอาวุธนา) อย่างใดอย่างหนึ่ง
· ปาฐะพิมพ์ไว้เป็น อเหตุุก…ธาตุภูคานิ ผิด ที่ถูกเป็น…วคราคัน