ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาภิรมรมแปล ภาค 1 ตอน 1 - หน้าที่ 14
เหตุ เป็นอัตตปฏิสัธิมิกา
ธรรมเหล่าใดชาตะแล้ว เป็นแล้ว ได้กำเนิดสำเร็จแล้ว ปรากฏฐังคันแล้ว ความรู้ในธรรมเหล่านี้เป็นอัตตปฏิสัธิมิกา ธรรมเหล่านั้นชาตแล้วเป็นแล้ว... แต่ธรรมใด ความรู้ในธรรมมันเป็นอัตตปฏิสัธิมิกา ธรรมเหล่านั้นเป็นอัตตปฏิสัธิมิกา
ความรู้ในชรรามระ เป็นอัตตปฏิสัธิมิกา ความรู้ในชรรามระ-สนฺทัย เป็นอัตตปฏิสัธิมิกา ฯลฯ ความรู้ในสังวรณโรคเป็นอัตต-ปฏิสัธิมิกา ความรู้ในสงเรนนโรคามีปัญหา เป็นอัตตปฏิสัธิมิกา
ภิญญาในธรรมวินัยอ่อนร้อยรู้ธรรมอันเป็น สุตตา เคยยะ ฯลฯ เวลาจะ ความรู้ธรรมนี้เอกัํยร่มปฏิสัธิมิกาภิญญุน่อมรู้เนื้อความแห่งภาตินั้น ๆ นั่นแหละ ว่มนี่เป็นความแห่งภาตินี้ นี้เป็นความแห่งกายนี้ ความรู้เนื้อความแห่งกายนั้น เรียกอัตปฏิสัธิมิกา
ธรรมทั้งหมดที่เป็นคุลเป็นไฉน ? สงัยใจดีเป็นกายาวรญฺคุส
เกิดขึ้น ฯลฯ ธรรมเหล่านี้เป็นคุล ความรู้ในธรรมเหล่านี้เป็นอิ่มม-
ปฏิสัธิมิกา ความรู้ในวิภาคแห่งธรรมเหล่านั้น เป็นอัตปฏิสัธิมิกา" ดังนี้เป็นต้น
[นิรุตปฏิสัธิมิกา]
กล่าวว่า “อดุสมุนิฏุตติลาภ” ถานฺ มีอรรถาธิบายว่า
สภาวนิรุต (ภาษาที่แท้) คืออธิธานิจาริโวหาร (ถือคำที่ใช้กันเป็น
. เตส ธมฺมุ ส ต. ศัพท์ที่ต้องรับกับ บ. สศัพท์-ยมฺมา เถวว่าไม่เสมอกัน
นำจะเรียงเสียงเนื่องมาแต่นิยม ธรรมสุข ข้างหน้ากระมัง มองไม่เห็นเหตุที่จะต้องเป็นพูวจนะ ในที่นี้จึงแปลว่าเป็นอกวานะ คือเป็น คุลุม ธมฺม