ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาธรรมวรรคภาค ๑ ตอน ๑ - หน้า 9
ได้) ทุติย (ความเห็น) รู้ (ความพอใจ) มูติ (ความรู้) เปนหย
(ความค้นพบ) ธรรมมินิชานบันฑิต (ความทนต่อความเพ่งแห่งธรรม)
อันเป็นอนุโลมมิ (คือความแก่ธรรมคือการงานที่ประสงค์จะทำไม่ขัด
กัน) รูปเดียวกันนั้น ในกมมายนะ (อายตนะคือการงาน) ทั้งหลาย
ที่บุคคลจัดทำด้วยโยคะ (คือปัญญา) ก็ดี ในสิปปายะนะ (อายตนะ
คือศิลปะ) ทั้งหลายที่บุคคลจัดทำด้วยโยคะ (คือปัญญา) ก็ดี ในวิชา-
ฐานะ (คือวิทยาการสกปะ?) ทั้งหลาย ที่บุคคลจัดทำด้วยโยคะ (คือ
ปัญญา) ก็ฉันใด ความรู้นี้เรียกว่า จินตามปัญญา
สุดยมปัญญาเป็นไฉน ? บุคคลใดฟังแต่ผู้อื่นแล้วจึงได้สิง่เป็นมัก-
กาฎญาณ ฯลฯ อันใด ความรู้นี้เรียกว่า สุตมปัญญา
(ภานามยปัญญาเป็นไฉน ?) ความรู้ของผู้นำสัมบัติทุกอย่าง
เรียกว่าความปัญญา"
ปัญญาเป็น ๑ โดยเป็นจินตามปัญญา สุดยมปัญญา และภาวนา-
มยปัญญา ดังกล่าวมานะนี้
ในตํกที่ ๒ ปัญญาเป็น ๑ โดยเป็นปริตตราม्मปัญญา มหิคอ-
ดามิปัญญา และอัปปามานรมปัญญา อย่างนี้ ถือ เป็นปัญญาที่ปรากร
ธรรมทั้งหลายอันเป็นมาวจรเป็นไป เป็นปริตตรามิณนปัญญา ที่
ปราศจากธรรมทั้งหลายอันเป็นรูปวาวรเป็นไป เป็นปริตตรามิณนปัญญา ที่
ปรารธธรรมทั้งหลายอันเป็นรูปวาวรเป็นไป เป็นมหิกรณ์-
ตรามิณนปัญญา ปัญญา ๒ นันเป็นโลภวิปสนาปัญญา ปัญญาที่ปรารถนา
พระนิพพานเป็นไป เป็นอัปปามานรมปัญญา อัปปามารมรมม-