ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปรัชญา - วิภัชมีกรรมเปล่า คาถา ๑ หน้า ๑๔
โดยเป็นความหยาดไปแห่งความมุ่งมั่นดี ๕ เป็น ๖ โดยมีความ
ทำลายไปแห่งกองตันหา ๖
ส่วนมรรค เป็นอย่างเดียว โดยเป็นภาวัติธรรม เป็น ๒
โดยแยกเป็นสมะและวิบาสนา หรือโดยแยกเป็น ทิสสะ (คือโลสา-
ปิตติ มรรค) และภาวนา (คือสภาพามิรรก อนามิรรก อรัณฑ-
มรรค) เป็น ๓ โดยต่างแห่ง (ธรรม) ขั้น ๓ แก่จริง มรรคมัธ
เพราะเหตุที่มูลเป็นส่วนย่อย ท่านจึงสงเคราะห์ (คือรวมเข้า)
ด้วย (ธรรม) ชั้น ๓ ซึ่งเป็นส่วนรวม เหมือนเมืองรวมเข้า ด้วย
นั้นนะ ดังคะพระบรมเกียรติว่า (แห่ปัญหาของวิสาขดอาศ) ว่า "ดูกอาโลวิสวะ ชั้น ๓ ท่านมีใส่สงเคราะห์เข้าสด้วยอริยะ-
มรรคอังค ๙ ดอก แต่ว่าคริมรรกอิงค์ ๙ ต่างหาก ท่านสงเคราะห์
เข้าสด้วยชั้น ๓ ดูกอาโลวิสวะ ล้มมาวาใด้ด้วย ล้มมันมันวะ
ใด้ด้วย ล้มมาอาชิวะใด้ด้วย ธรรม (๓) นี้ ท่านสงเคราะห์ด้วย
สีลันธิ ล้มมาวาจะใด้ด้วย ล้มมักฉิตใด้ด้วย ล้มมามีนะ
ธรร (๓) นี้่น ท่านสงเคราะห์ด้วยสมาธิขันธ์ ล้มมักจิตใด้ด้วย
ธรรม (๓) นี้่น ท่านสงเคราะห์ด้วยสมาธิขันธ์ ล้มมักจิตใด้ด้วย
ธรรม (๓) นี้่น ท่านสงเคราะห์ด้วยสมาธิขันธ์ ล้มมักจิตใด้ด้วย
ธรรม (๓) นี้่น ท่านสงเคราะห์ด้วยสมาธิขันธ์ ล้มมักจิตใด้ด้วย
ธรรม (๓) นี้่น ท่านสงเคราะห์ด้วยสมาธิขันธ์ ล้มมักจิตใด้ด้วย
๑. คุณหากาเยนภิกขา นาม มีความเป็น ๒ คือ แตกต่างได้๑๐ แตกต่างก็ได้
ตรงนี้ต้องบอกว่าแตกต่าง จึงจะเข้าเรื่อง
๒. เรื่องอริยสัจจเป็น ๑ นี้ ท่านกล่าวอย่างไรอยู่ ฟังของท่านไม่ออก เมื่อถึงถูกเป็น
ปวติ สมุทัยเป็นปวัตตกะแล้ว ก็เน่า จีนจะซื้นโรเป็นนิวัตติ มรรคเป็นนิวัตตก ไปแนว
เดียวกัน ซึ่งก็เคยกล่าวมาแล้วในตอนต้น แต่ท่านกลับแยกแนว ไปซี้นี้โรเป็นอังสร-
ถา มรรคเป็นภาวัติธรรม หรือเมื่อจะซี้นี้โดยอิยา คงว่ามรรคเป็นอวดีพธรรม
ถึงน่ะซี้ทุกข์เป็นปฏิโลยทุกข์ สมุทัยเป็นปาทับพธรรม และนิโรธเป็นสัจจะ-
กัตพธรรม เข้ากันกัน