ข้อความต้นฉบับในหน้า
เนื้อความจากภาพ OCR ที่ได้คือ:
ประโยค - วิทยาภิวรรณ์แปล ภาค ๑ ตอน ๑ หน้า ๔๖
เดิมตามสภาพ โดยลักษณะคือความรู้แจ้ง (แถม ว่าโดยชาติคือเป็นอย่าง คือ เป็นฤกษ์ ฤกษ์ และอัพพฤกษ์ (ท่านใช้ว่า วิญญาณบ้าง จิณบ้างปน ๗ นัก)
[ฤกษ์สัญญาณ]
ในวิญญาณ ๓ อย่างนั้น ฤกษ์วิญญาณเป็น ๔ โดยต่างแห่งภูมิอัน กามวาจร รูปวาจร อุตปาจร และโลคุตร ใน ๔ ภูมิัน กามวาจร มี ๕ โดยประเภทแห่งโสมนัส อุปมาณา อาญา และสังขาร กามวาจร- วิญญาณ ๕ นี้ คืออะไรบ้าง ? คือวิญญาณโสมานัสสรรค ญาณสัมปุ- ยุตเป็นสังขาร ๑ สังขาร ๑ ที่เป็นวิญญาณวิปุโล คืองั้นนั้น คือ อ สังขาร ๑ สังขาร ๑ (รวมเป็นฝ่ายวิญญาณสรรค ๔) วิญญาณ อุปมาณา สงคราม คาญสัมปุ- ยุตเป็นสังขาร ๑ สังขาร ๑ ที่เป็น วิญญาณปุฏ คืองั้นนั้น คือเป็นสังขาร ๑ สังขาร ๑ (รวมเป็น ฝ่ายอุปมาณาสรรค ๔ รวมเข้า ด้วยกัน ทั้งสองฝ่าย จึงเป็น ๔)
ก็ในภาคใด บุคคลอะศัยความพร้อมมูลแห่งไทยธรรมและปฏิกรณ์เป็นต้น หรือเหตุแห่งโสมนัสอย่างอื่น (เช่น เห็นอนิสงส์เกิดศิษา ทิมเมียร์เป็นต้น) แล้วเป็นผู้วิเคราะห์ความคิดเห็นอย่างอันอย่างอัน โดยย่อ "(ผล) ทานที่ให้แล้วมีอยู่" เป็นต้นให้ออกหน้า ไม่ขับขี้ย่อน คนอื่น ๆ ก็ได้กุญแจ ทำบุญทั้งหลายก็เป็นต้น (ได้เอง) ในภาคนั้น จิดของบุคคลนั้น เป็นโสมนัสสรรค ฤกษ์สัมปุ- ยุต
- ในรณีนี้คัมภีร์ภูมิฤกษ์อริยธรรม ท่านประกอบคำที่เป็น องค์ประกอบ ให้ต่างจากคำสังขารทั่ว ๆ ไป