ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาธรรมะเบ่มภาค ๑ ตอนที่ ๑ หน้า 236
แบบที่ทรงวงไว้นั้น ลงสู่วิชาชาวที่แล้วไม่กล่าวว่าดุ อาจารย์ทั้งหลาย
ไม่ดิ้นลงสู่สมัย (คือไม่ยึดแต่ความรู้ฝายตน ?) ไม่ขึ้นคร่อมปราสมัย
(คือไม่มียาความรู้ฝายอื่น ?) ไม่นำพระสูตร อนุโปลพระวินัย มองดู
มหาปทีไว้ ซื้อธรรม (คืออาบิษ) ได้ (ถูกต้อง) ถือเอาธรรม (คือความ
อธิบายแห่งบาปนี้) ได้ (ไม่ผิด) และยกเรื่องอรรถนั้นแหละอธิบาย
ไปโดยบรรยายอธิบื่นอีกก็ได้ (ดังนี้) จงควรทำอรรถสงวรณาได้
อย่างเถล โดยปกติ อรรถสงวรณาแห่งปิฎกสมุทธ ก็ทำอยูแล้ว
ดังโปรดารชี้หลายกล่าวไว้ว่า
ธรรม ๔ ประการ คือสติ สัตว์- ปฏิรูปและ
ปัจจยาการนี้แหละ เป็นธรรมที่หาได้ยาก ทั้งยาก
ที่จะสดงด้วย
ดังนี้ เหตุใด เพราะเหตุนี้นน การสงวรณาความแห่งปฏิจจสมุปา
อันใคร ๆ เว้นเสียแต่ท่านผู้สำเร็จอกาม (คือพระปริยัติ) และอธิเม
(คือมรรคนผล) จะทำได้ง่ายๆ เหตุดังนี้ ข้ามเจ้าขังใจแล้ว
วันนี้ใคร่จะกล่าวพรรษนาปัจจอาการ (ทั้ง ๆ ที่)
ยังไม่ได้ (นัยอันเป็น) ที่ตั้ง (ที่อาศัย ด้วยกำลัง
ปัญญาดาน) ดังกล่าวลงสู่ครยงไม่ได้ที่เหยียบยบ
ฉะนัน ก็แต่คำสอนข้อนี้เป็นคำสอนที่ประดับ
๑. ปฐะพิมพ์เป็น อนุทิจกุฎุมดาว เกลาคเคลื่อน ที่ถูกเป็น...กิจจานุเดน
๒. มหิกว่าต่า อาจารย์ทั้งหลายกว่ากว่าคำนิยมเขา สัตตสัญญา เพราะในกอง
สังฆซึ่งเป็นสภาว่าจากสัจจะ เมื่อใช่คำว่าสัตว์ ก็หมายถึงสัตว์สุขญตา
๓. ปฐะพิมพ์ไว้เป็น อุกฏูกาม เกลาคเคลื่อน ที่ถูกเป็น วัตถุกโม