ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- วัตถุมีสรรเปล่าภาค ๑ หน้าที่ 216
สองจิ้งก้ามตัวลงให้หลังแก่สหายผู้นั้น สหายผู้นั้นแม้บินอยู่หลังสหาย
ที่สองแล้ว แต่ตัวยังโงนงน ก็ยังเก็บไม่ได้ ที่สหายอีกคนหนึ่งจึงเอียง
ไหลให้สหายผู้นั้น สหายผู้นั้นบนหลังสหายผู้นั้น เหยียบนั้นไหลสหาย
ผู้นั้น จึงเลือกเก็บดอกไม้ตามชอบใจมาประดับกายเล่นนักตัดกฐินได้
ฉันใด ข้ออุปไมยนี้ก็พึงเห็นฉนั้น อนธรรมา มีสัมมาวายามะเป็นต้น
เป็นธรรมเกิดร่วมกัน เปรียบเหมือนสหาย ๑ คนผู้เข้าสู่ชายนด้วยกัน
อารมณ์ (ของสมาธิ) เหมือนต้นจำปานี้ดอกงามงาน สมาธิไม่
อาจแน่นแน โดยความเป็นหนึ่งแน่ในอารมณ์โดยธรรมาของตนได้
เหมือนสหายผู้นี้อ้อมมือขึ้นไปแล้วแต่เก็บไมถึง วายมะ เหมือน
สหายผู้งหลังให้ สติ เหมือนสหายผู้นี้เอาไห ให้เมื่อวิริยะยังดำ
คือการประกอบ (ติด) ให้สำเร็จ และเมื่อสำเร็จก็ถือไม่ฟันเฟือง
ไปให้สำเร็จอยู่ สุตเป็นธรรมได้รับอุปการะ (ดังนี้แล้ว จึงจา
แนวแน่นโดยความเป็นหนึ่งแน่ในอารมณ์ได้ เปรียบเหมือนในสหาย
๑ คนนั้น อีกผู้นึ่งยืนบนหลังของคนหนึ่ง เหยียบย่ำ linger of the road.പി
จึงสามารถเก็บดอกไม้ได้ตามชอบใจนั้น เพราะเหตุนัน ในธรรม ๑
นั่น สมัยอย่างเดียว ท่านสงเคราะห์เข้าด้วยสมาธิหรือความมุ่งมัติ
เสมอ กัน ส่วนวายามะและสติเป็นธรรมที่น่าสงเคราะห์เข้าโดยรยาก
(คือเป็นธรรมอุดหนุนสมาธิ)
แม้ในสัมมาธิซึ่งและสัมมาสงบปะสาลา ปัญญามีอาจตัดสิน
อารมณ์ว่าไม่เที่ยงเป็นบุคคติเป็นอัตตาโดยธรรมคงคนได้ ต่อเมื่อ
วัตถุและ ๆ ให้ถึงอา ข้ออย่างไร ? เหมือนอย่างไหร่ญิตวง